รายละเอียดข้อมูลการนำไปใช้ประโยชน์
โครงการวิจัย
ประเภท : พัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.)
โดย นันทวัน พัวพัน [คณะครุศาสตร์]
หน่วยงานที่นำประโยชน์
วันที่ 28 สิงหาคม 2567
โดย นายอดุลย์ ภูปลื้ม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40 จังหวัดเพชรบูรณ์
ต.บ้านโตก อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์
การนำไปใช้ประโยชน์
1. การนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงนโยบาย
2. การนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ
รายละเอียดการนำไปใช้ประโยชน์
2. การนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงนโยบาย
- จากนโยบาย Anywhere Anytime เป็นการนำนวัตกรรมสื่อดิจิทัลที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบแพตฟอร์มต่าง ๆ กับเยาวชนชาติพันธุ์

5. การนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ
- ชุดโครงการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1. เพื่อพัฒนานวัตกรรมสื่อดิจิทัลในหลักสูตรการพัฒนานักยูทูปเบอร์กลุ่มเยาวชนชาติพันธุ์มั้ง ในการส่งเสริมสมรรถนะสำคัญด้านการใช้เทคโนโลยีและทักษะทักษะชีวิต 2. เพื่อพัฒนาสื่อมัลติมีเดียแบบสถานการณ์จำลอง เรื่อง ภัยธรรรมชาติ และภัยจากโรคติดเชื้ออุบัติใหม่เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะสำคัญด้านการคิดและการแก้ปัญหา ของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์มั้ง และ 3. เพื่อพัฒนาแอพลิเคชั่น "HIRU" เพื่อพัฒนาสมรรถนะการสื่อสารภาษาไทย-มั้งของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลและนำงานวิจัยไปโยชน์ร่วมกับทางโรงเรียนและชุมชน      บ้านเข็กน้อย โดยผลการวิจัย พบว่า 1. นักเรียนมีการสร้างนวัตกรรมสื่อดิจิทัล ในด้านเนื้อหา มีเนื้อหา ตรงประเด็นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับ ดีมาก (x̄ = 4.86, S.D. = 0.46) ในด้านภาษา มีภาษาที่ใช้อธิบายและสื่อความหมายเข้าใจได้ง่าย ค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับ ดี (x̄ = 4.48, S.D. = 0.56) และในด้านประโยชน์ที่ได้รับ มีการเผยแพร่วิถีชุมชนเข็กน้อยได้อย่างน่าสนใจ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับ ดีมาก (x̄ = 487, S.D. = 0.53) นอกจากนี้ นักเรียนมีผลการประเมินสมรรถนะสำคัญด้านการใช้เทคโนโลยีและทักษะชีวิตในการเผยแพร่วิถีชุมชนเข็กน้อย ดังนี้ สมรรถนะสำคัญด้านการใช้เทคโนโลยี นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับสื่อเทคโนโลยีที่นำมาใช้ได้อย่างถูกต้อง มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับ ดีมาก (x̄ = 4.59, S.D. = 0.57) ในด้านทักษะชีวิต มีการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล ค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับดี (x̄ = 4.57, S.D. = 0.57) และมีการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงวของสังคมและสภาพแวดล้อมมีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับ ดีมาก (x̄ = 4.57, S.D. = 0.49) 2) นักเรียนที่เรียนโดยใช้สื่อมัลติมีเดียแบบสถานการณ์จำลอง เรื่อง ภัยธรรมชาติ และภัยจากโรคติดเชื้ออุบัติใหม่เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะสำคัญด้านการคิดและการแก้ปัญหาของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์มั้ง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 มีระดับสมรรถนะสำคัญด้านการคิดและการแก้ปัญหาสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้สื่อมัลติมีเตียแบบสถานการณ์จำลอง เรื่อง ภัยธรรมชาติ และภัยจากโรคติดเชื้ออุบัติใหม่เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะสำคัญด้านการคิดและการแก้ปัญหาของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก   3) แอพพลิเคชัน "HIRU" ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น ล้วนมีประโยชน์ในการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ ทั้ง 5 ด้าน เนื่องจากเป็นสื่อที่มีความสวยงาม แปลกใหม่ น่าสนใจ เนื้อหาไม่ง่ายหรือไม่ยากจนเกินไปและง่ายต่อการใช้งานดังนั้น จะเห็นได้ว่าชุดโครงการวิจัยเรื่อง การยกระดับการศึกษาโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสมรรถนะสำคัญของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง สามารถพัฒนาทั้งด้านการศึกษาร่วมกับชุมชนได้อย่างแท้จริง จนเกิดนวัตกรรมทางด้านการศึกษาได้แก่ 1.  สื่อดิจิทัลเผยแพร่วิถีชีวิตชุมชนเข็กน้อยทางช่อง Youtube ซึ่งเป็นผลงานที่ได้จากการพัฒนาสมรรถนะด้านการใช้เทคโนโลยีและทักษะชีวิตกับการลงพื้นที่ชุมชนของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง 2. นวัตกรรมสื่อมัลติมีเดียแบบสถานการณ์จำลอง เรื่อง ภัยธรธรรมชาติ และภัยจากโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ ส่งผลให้นักเรียนมีสมรรถนะสำคัญด้านการคิดและการแก้ปัญหาสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3. แอพพลิเคชั่น"HIRU" เพื่อพัฒนาสมรรถนะการสื่อสารภาษาไทย-มั้งของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ให้มีพัฒนาการสื่อสารภาษาไทยได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถศึกษารายละเอียดของผลการวิจัยและนวัตกรรมทางการศึกษา ดังเอกสารแนบ
เปิดอ่าน
28 ครั้ง
เอกสาร
ดาวน์โหลด จำนวนดาวน์โหลด : 10 ครั้ง
หมายเหตุ
เป็นไปตามเกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษาฯ