| บทคัดย่อ |
สาขาวิชานิติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ได้ทำการศึกษาการเรียนรู้ตามอัธยาศัยด้านกฎหมายของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์:กรณีศึกษาโรงเรียน วิทยานุกูลนารี โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาการเรียนรู้ตามอัธยาศัยด้านกฎหมายของ นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์:กรณีศึกษาโรงเรียนวิทยานุกูลนารีและหาแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนและดำเนินโครงการบริการวิชาการของสาขาวิชานิติศาสตร์ โดยการสุ่มตัวอย่างประชากร ตามวิธีของ ยามาเน่ (Yamane) ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 300 คน ประกอบด้วย ประกอบด้วย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 100 (33.33%) นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 99 คน (33.00%) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 101 คน (33.67%)
ผลการศึกษาพบว่า ความคิดเห็นเกี่ยวกับแหล่งการเรียนรู้ตามอัธยาศัยด้านกฎมายของนักเรียน มัธยมศึกษาตอนปลาย แหล่งการเรียนรู้ตามอัธยาศัยด้านกฎหมายที่นักเรียนส่วนใหญ่เลือกเป็นอันดับที่ 1 คือ การเรียนรู้ตามอัธยาศัยด้านกฎหมายจากสื่อผสม เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ วีดีโอซีดี ดีวีดี เครื่องเล่นทางการศึกษา อินเตอร์เน็ต สิ่งพิมพ์ จำนวน 137 คน (45.70%) และรูปแบบการเรียนรู้ตาม อัธยาศัยด้านกฎมายที่นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายส่วนใหญ่เลือกเป็นอันดับที่ 1 คือ รูปแบบการ เรียนรู้ตามอัธยาศัยด้านกฎหมายโดยบังเอิญ เช่น การท่องเที่ยว การศึกษาดูงาน จำนวน 117 คน (39.00%) และความรู้กฎหมายที่ได้รับจากการเรียนรู้ตามอัธยาศัยที่นักเรียนส่วนใหญ่เลือกเป็นอันดับที่ 1 คือ ความรู้กฎหมายเกี่ยวกับกฎหมายปกครอง จำนวน 59 คน (19.70%)
The Law Programme of the Humanities and Social Sciences Faculty had studied the informal legal learning of the senior secondary school students in Phetchabun Province : A Case Study of Witayanukul-naree School. The purposes of this research study were to study the informal legal learning of the secondary school students in Phetchabun Province : A Case Study of Witayanukul-naree School and to find the way of developing the teaching methods and the academic service in its’ Law Programme. The Sample Group, using Yamane Method, consisted of 300 students : 100 students from Matayom Suksa 4 (33.33%), 99 students from Matayom Suksa 5 (33.00%) and 101 students from Matayom Suksa 6 (33.67%)
The study indicated that : the opinion about the source of the Informal Legal Learning, 137 senior secondary school students (45.70%), chosen as the first rank was the Informal Legal Learning from mass media such as radios, televisions, movies, VDO or DVD play stations, internet and printed matters. A form of the Informal Legal Learning, 117 senior secondary school students (39.00%), chosen as the first rank was the form of the Accidental Informal Legal Learning such as Tourism and Field Trip. And the Legal Knowledge which obtained from the Informal Learning, 59 senior secondary school students (19.70%), chosen as the first rank was the legal subject in Public Law.
|
|---|
| คำสำคัญ |
การศึกษาการเรียนรู้ตามอัธยาศัย,ด้านกฎหมาย,นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย,จังหวัดเพชรบูรณ์,โรงเรียนวิทยานุกูลนารี
|
|---|
