| บทคัดย่อ |
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ศึกษาประสิทธิภาพการเก็บกักคาร์บอนไว้ในมวลชีวภาพ การจัดการดินและปุ๋ยในการปลูกอะโวคาโด และการส่งเสริมกิจกรรมที่เหมาะสมเพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อนให้แก่ชุมชน พื้นที่การวิจัย คือ บ้านเพชรช่วย ตาบลริมสีม่วง อาเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ การศึกษาลักษณะทางพฤกษศาสตร์ได้ศึกษาลักษณะใบ ผล และเปลือกลาต้นอะโดวาโด 4 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์บัคคาเนียร์ บูธ 7 ปีเตอร์สัน และฟูเอร์เต้ การศึกษาการเก็บกักคาร์บอนในมวลชีวภาพทาการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางระดับอกและความสูงของต้นอะโวคาโดแต่ละสายพันธุ์ในแปลงขนาด 20x40 ตารางเมตร แล้วนำมาหามวลชีวภาพเหนือพื้นดินด้วยการใช้สมการอัลโลเมตรี ทำการเก็บตัวอย่างชิ้นส่วนพืชเพื่อนำวิเคราะห์หาค่าคงที่ของปริมาณคาร์บอน เพื่อนำมาคานวณหาปริมาณคาร์บอนที่สะสมไว้ในมวลชีวภาพของอะโวคาโดต่อพื้นที่ การทดสอบวิธีการจัดการดินและปุ๋ย ได้ออกแบบชุดทดลอง 3 ชุดทดลอง แต่ละชุดทดลองทำการทดลอง 3 ซ้ำ ชุดทดลองที่ 1 ใช้ปุ๋ยเคมี ชุดทดลองที่ 2 ใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ และชุดทดลองที่ 3 ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ผลการศึกษาพบว่าอะโวคาโดทั้ง 4 สายพันธุ์มีลักษณะเด่นที่สาคัญ ดังนี้ พันธุ์บัคคาเนียร์ผลเดี่ยวแบบลูกแพร์ผิวเรียบ ผลแก่สีเขียว น้ำหนักของผล 295.0-305.0 กรัม ใบมีลักษณะรูปรี โคนใบแบบโคนมนถึงสอบเรียว ปลายใบเป็นแบบปลายแหลม ระยะห่างระหว่างก้านใบบริเวณปลายกิ่งถี่ เปลือกของลำต้นสีเทาขรุขระ พันธุ์บูธ 7 มีผลกลมผิวเรียบ ผลแก่สีเขียว น้ำหนักอยู่ในช่วง 360.0-450.0 กรัม ใบมีลักษณะรูปรี โคนใบมีลักษณะรูปโคนมนถึงสอบเรียว ปลายใบเป็นแบบปลายเรียวแหลม ปลายกิ่งมีใบเป็นกระจุกระยะห่างระหว่างก้านใบค่อนข้างห่าง เปลือกของลำต้นสีเทามีรอยแตกเป็นร่อง พันธุ์ฟูเอร์เต้มีผลแบบลูกแพร์ผิวเรียบ ผลแก่สีม่วง น้ำหนักผลใกล้เคียงพันธุ์บูธ 7 ใบมีลักษณะรูปรี โคนใบมีลักษณะรูปโคนมนถึงสอบเรียว ปลายใบเป็นแบบปลายเรียวแหลม ก้านใบบริเวณปลายกิ่งมีระยะห่าง ลำต้นสีน้าตาลมีรอยแตกเป็นร่อง และพันธุ์ปีเตอร์สันมีผลกลมผิวเรียบ ผลแก่สีเขียว น้ำหนักผลใกล้เคียงพันธุ์บัคคาเนียร์ ใบมีลักษณะรูปรี โคนใบมีลักษณะรูปลักษณะรูปโคนมนถึงสอบเรียว ปลายใบเป็นแบบปลายแหลม ระยะห่างระหว่างก้านใบบริเวณปลายกิ่งถี่ เปลือกของลำต้นสีเทาขรุขระ การหาค่าคงที่ปริมาณคาร์บอนของอะโวคาโด สรุปได้ว่าอะโวคาโดสายพันธุ์ฟูเอร์เต้มีค่าคงที่ปริมาณคาร์บอนสูงที่สุด แต่เมื่อนำมาคำนวณหาปริมาณการสะสมคาร์บอนในมวลชีวภาพเหนือดินพบว่าอะโวคาโดสายพันธุ์บัคคาเนียร์สามารถเก็บกักคาร์บอนสะสมไว้ในมวลชีวภาพได้สูงที่สุด โดยมีปริมาณการสะสมคาร์บอนในมวลชีวภาพเหนือดินเฉลี่ยเท่ากับ 3,399.36 กิโลกรัมต่อไร่ และอะโวคาโดพันธุ์ปีเตอร์สันนั้นมีประสิทธิภาพในการสะสมคาร์บอนไว้ในมวลชีวภาพเหนือดินได้น้อยที่สุด การทดสอบวิธีการการจัดการดินที่เหมาะสมในการปลูกอะโวคาโดเพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อน สรุปได้ว่าการปลูกอะโวคาโดในชุดทดลองที่ 1 ด้วยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์สามารถลดปัญหาดินเป็นกรดได้ดี กล้าไม้มีการเจริญเติบโตดี อีกทั้งยังทำให้การสะสมของอินทรีย์คาร์บอนในดินมีประสิทธิภาพสูงที่สุด ในการส่งเสริมกิจกรรมการปลูกอะโวคาโดเพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อนและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากอะโวคาโด สรุปได้ว่าประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจในการดำเนินกิจกรรมอยู่ในระดับดี
This study aims to compare the botanical characteristics of avocado varieties, assess their carbon sequestration efficiency in biomass, examine soil and fertilizer management strategies for avocado cultivation, and promote appropriate activities to mitigate global warming within the community. The research was conducted in Ban Phetchuai, Rim Si Muang Subdistrict, Khao Kho District, Phetchabun Province. The botanical study focused on the leaf, fruit, and bark characteristics of four avocado varieties: Buccaneer, Booth 7, Peterson, and Fuerte. Carbon sequestration in biomass was measured by assessing the diameter at breast height (DBH) and tree height within a 20×40 m experimental plot. Above-ground biomass was estimated using allometric equations, and plant tissue samples were collected to analyze carbon content constants, which were subsequently used to calculate carbon accumulation per unit area.
For soil and fertilizer management, three experimental treatments were designed, each with three replications: Treatment 1 chemical fertilizer, Treatment 2 combination of chemical and organic fertilizers, and Treatment 3 organic fertilizer only. The findings revealed distinct characteristics among the four avocado varieties. The Buccaneer variety had pear-shaped, smooth-skinned fruit, green when ripe, weighing 295.0–305.0 g. Its leaves were elliptical, with a rounded to tapering base and pointed tip. Booth 7 had round, smooth-skinned fruit, green when ripe, weighing 360.0–450.0 g. Its leaves were elliptical with a rounded to tapering base and sharply pointed tip. Fuerte produced pear-shaped, smooth-skinned fruit that turned purple when ripe, with a weight similar to Booth 7. The Peterson variety had round, smooth-skinned fruit, green when ripe, with a weight similar to Buccaneer. The study on carbon sequestration constants found that Fuerte had the highest carbon content constant. However, when calculating total above-ground carbon sequestration, the Buccaneer variety stored the highest amount of carbon, averaging 3,399.36 kg/rai. Conversely, the Peterson variety demonstrated the lowest efficiency in above-ground carbon accumulation. Regarding soil management, the results indicated that the organic fertilizer treatment (Treatment 1) effectively reduced soil acidity, promoted healthy seedling growth, and enhanced soil organic carbon accumulation. Additionally, the study found that community engagement in avocado cultivation and product processing activities was well-received, with participants expressing high levels of satisfaction.
|
| คำสำคัญ |
การวิจัยและพัฒนา,การปลูกอะโวคาโด,แก๊สเรือนกระจก,จังหวัดเพชรบูรณ์,A research and approach,avocado planting,greenhouse gases,Phetchabun Province
|