| บทคัดย่อ |
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาการเข้าถึงบริการทางการเงินของผู้สูงอายุ ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการต่อการเข้าถึงบริการทางการเงินของผู้สูงอายุในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางในการส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงิน ของผู้สูงอายุในจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ทําการสุ่มตัวอย่างจากผู้สูงอายุ ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 400 คน ใช้แบบสอบถาม และแนวคำถามการสนทนากลุ่มเป็นเครื่องมือในการวิจัย ทําการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยแบบจำลองโพรบิต (Probit Model) และแบบจำลองโลจิต (Logit Model) รวมทั้งการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการศึกษา พบว่า รายได้ จำนวนปีที่ได้รับการศึกษา และการถือครองโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนและมีอินเตอร์เน็ต เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเข้าถึงบริการทางการเงินของผู้สูงอายุ ในทิศทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และยังพบว่า แนวทางที่จะส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินของผู้สูงอายุในจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้แก่ 1) เพิ่มทักษะทางการเงินและดิจิทัล 2) สร้างช่องทางบริการที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ 3) พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเฉพาะกลุ่ม 4) สร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อขยายการให้ความรู้และโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน และ 5)รณรงค์สร้างความเชื่อมั่น ในการใช้บริการทางการเงินออนไลน์ผ่านการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง ดังนั้น ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรส่งเสริมการสร้างอาชีพ หรืออาชีพเสริมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ควบคู่กับการจัดอบรมความรู้ทางการเงินและทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนสนับสนุนการใช้สมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ต เพื่อเพิ่มรายได้และศักยภาพในการเข้าถึงบริการทางการเงินให้แก่ผู้สูงอายุ
The purposes of this research were : 1) to examine financial inclusion among elderly people in Phetchabun Province, 2) to investigate factors affecting their access to financial services, and 3) to explore strategies to promote financial inclusion for the elderly in order to reduce inequality. A sample of 400 elderly individuals from Phetchabun Province was selected through random sampling. Data were collected using questionnaires and focus group discussion guides. Quantitative data were analyzed using Probit and Logit models, while qualitative data were analyzed through content analysis.
The findings indicate that income, years of education, and ownership of smartphones with internet access significantly and positively influence elderly people’s access to financial services at a 0.05 significance level. Strategies to enhance financial inclusion for the elderly in Phetchabun Province include: (1) improving financial and digital literacy, (2) creating appropriate service channels, (3) developing targeted financial products, (4) building collaborative networks to expand knowledge and access opportunities, and (5) promoting trust in online financial services through accurate information dissemination. Therefore, relevant government agencies and organizations should support the development of suitable occupations or supplementary careers for the elderly, alongside providing continuous training in financial knowledge and digital skills, as well as encouraging the use of smartphones and internet access to increase their income and capability to access financial services.
|
|---|
| คำสำคัญ |
การเข้าถึงบริการทางการเงิน,ความเหลื่อมล้ำ,ผู้สูงอายุ,Financial Inclusion,Inequality,Elderly
|
|---|
