| บทคัดย่อ |
การศึกษาครั้งนี้เป็นงานวิจัยแบบผสานวิธีที่ใช้ทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาภาพรวมของพฤฒพลังในผู้สูงอายุไทยและทดสอบปัจจัยประชากรศาสตร์กับพฤฒพลังในผู้สูงอายุดังกล่าว (2) ศึกษาระดับตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับภาวะพฤฒพลังในผู้สูงอายุ ได้แก่ การดูแลสุขภาพ สุขภาพจิต ทัศนคติ การสนับสนุนทางสังคม ภาวะพฤฒพลังในอดีต คุณภาพชีวิต ความพึงพอใจในชีวิต และภาวะพฤฒพลังปรับใหม่ (3) วิเคราะห์ปัจจัยใหม่ที่เกี่ยวข้องกับภาวะพฤฒพลังในผู้สูงอายุไทย (4) ศึกษาปัจจัยสาคัญที่มีผลต่อตัวแปรของภาวะพฤฒพลังที่ปรับแล้ว และ (5) พัฒนาตัวแบบนวัตกรรมเชิงสังคมโดยพื้นฐานของการแยกปัจจัยใหม่และภาวะพฤฒพลังปรับใหม่ในผู้สูงอายุไทย ตัวอย่างของการวิจัยเชิงปริมาณประกอบด้วยผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์จานวน 384 คน รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิเคราะห์เชิงอนุมานนั้น ผู้วิจัยใช้การทดสอบทีและเอฟ การวิเคราะห์ปัจจัยแยกปัจจัย และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ สาหรับตัวอย่างของการวิจัยเชิงคุณภาพนั้นประกอบด้วยผู้สูงอายุที่มีภาวะพฤฒพลังจานวน 30 คน และวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ผู้สูงอายุไทยในจังหวัดเพชรบูรณ์มีระดับพฤฒพลังสูง และยังพบว่า เพศ อายุ และรายรับต่อเดือนของผู้สูงอายุมีผลต่อความแตกต่างของภาวะพฤฒพลังในผู้สูงอายุของจังหวัดเพชรบูรณ์ ผลการศึกษาในเรื่องตัวแปรที่สะท้อนภาวะพฤฒพลังของผู้สูงอายุไทยนั้นพบว่า ทุกตัวแปรมีค่าเฉลี่ยในระดับสูงทั้งหมด ได้แก่ การดูแลสุขภาพ สุขภาพจิต ทัศนคติ การสนับสนุนทางสังคม ภาวะพฤฒพลังในอดีต คุณภาพชีวิต ความพึงพอใจในชีวิต และภาวะพฤฒพลังปรับใหม่ นอกจากนั้น ผลการวิเคราะห์ปัจจัยสามารถแยกองค์ประกอบที่สะท้อนภาวะพฤฒพลังปรับใหม่ของผู้สูงอายุได้ 9 องค์ประกอบ และผลการศึกษายังได้ระบุตัวแปรสาคัญ 4 ประการที่ส่งผลต่อภาวะพฤฒพลังปรับใหม่ของผู้สูงอายุไทยอย่างชัดเจน ได้แก่ การดูแลสุขภาพ สุขภาพจิต ทัศนคติ และการสนับสนุนทางสังคม ทั้งนี้ ผลการวิจัยเชิงปริมาณดังกล่าวมีความสอดคล้องกับผลการวิจัยเชิงคุณภาพด้วย จากผลการศึกษาทั้งหมดได้สรุปเพื่อสร้างตัวแบบนวัตกรรมเชิงสังคมของภาวะพฤฒพลังปรับใหม่สาหรับผู้สูงอายุไทย ซึ่งพบว่า มีปัจจัยหลัก 3 ประการที่ส่งผลต่อภาวะพฤฒพลังของผู้สูงอายุ ได้แก่ การดูแลสุขภาพซึ่งครอบคลุมถึงด้านจิตใจและร่างกาย ทัศนคติของผู้สูงอายุซึ่งครอบคลุมถึงความคิดเชิงบวก จิตอาสา และการทาบุญ และการสนับสนุนทางสังคมซึ่งประกอบไปด้วยองค์ประกอบสาคัญ 3 ประการ ได้แก่ การสนับสนุนจากภาครัฐ ครอบครัว และชุมชน
This mixed-method study used both quantitative and qualitative methods to (1) study the overall picture of active aging in Thai elderly and test the demographic factors related to active aging in the elderly; (2) study the level of variables related to active aging in the elderly, including health care, mental health, attitude, social support, past active aging, quality of life, life satisfaction, and adjusted active aging; (3) analyze new factors related to active aging in Thai elderly; (4) study the important factors affecting the adjusted active aging variables; and (5) develop the social innovation model based on extracting new factors and adjusted active aging in Thai elderly. The sample of quantitative research consisted of 384 elderly people in Phetchabun Province. Data were collected using questionnaires and analyzed using descriptive statistics, including percentage, mean, and standard deviation. For inferential analysis, the researcher used t-test and F-test, factor analysis, and multiple regression analysis. The sample of qualitative research consisted of 30 active aging elderly people. Data from interviews were analyzed using content analysis. The results of this study indicate that the elderly in Phetchabun Province have a high level of active aging. It also found that gender, age, and monthly income of the elderly have an effect on the difference in the active aging of the elderly in Phetchabun Province. The results of the study on the variables reflecting the active aging of the elderly in Thailand found that all variables had high mean values, namely health care, mental health, attitude, social support, past active aging, quality of life, life satisfaction, and adjusted active aging. In addition, the results of the factor analysis can separate 9 components reflecting the adjusted active aging of the elderly. The study also identified four key variables that clearly influenced the adjusted active aging of the Thai elderly: health care, mental health, attitude, and social support. The quantitative research results were consistent with the qualitative research results. The results of the study concluded to create a social innovation model of adjusted active aging of the Thai elderly, which found that there were three main factors that influenced the adjusted active aging of the elderly: health care, which covers both mental and physical aspects; attitudes of the elderly, which covers positive thinking, volunteerism, and making merit; and social support, which consists of three important elements: supporting from the government, family, and community.
|
|---|
| คำสำคัญ |
พฤฒพลัง,ผู้สูงอายุ,การพัฒนาตัวแบบใหม่,นวัตกรรมเชิงสังคม,Active Aging,Elderly,New Model Development,Social Innovation
|
|---|
