| บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนานวัตนกรรมกระบวนการ การผลิตชาดอกกาแฟ ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น 2) เพื่อพัฒนาศักยภาพกระบวนการการผลิตกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่กาแฟ อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ แล 3) เพื่อถ่ายทอดให้ความรู้กระบวนการการผลิตนวัตกรรมการผลิตชาดดอกกาแฟ การวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) โดยใช้เทคนิคการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของชุมชน กลุ่มตัวอย่าง คือ สมาชิกกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่กาแฟ กลุ่มผู้นำชุมชน หน่วยงานราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่กาแฟ อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 30 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสัมภาษณ์ การจัดเวทีประชาคม และการสนทนากลุ่ม สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า การพัฒนานวัตกรรมกระบวนการการผลิตชาดอกกาแฟด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยการพัฒนา 2 ด้าน คือ 1) เครื่องตากชาดอกกาแฟ เป็นเครื่องตากชาดอกกาแฟแบบมิดชิดมีกระจกปิดเพื่ออบชาดอกกาแฟในระหว่างตาก ผลทำให้ดอกกาแฟแห้งและเหลือความชื้นในระดับที่ต้องการและเก็บรักษาได้นานขึ้น 2) เครื่องคั่วชาดอกกาแฟ ผลทำให้ดอกกาแฟแห้งและมีสีน้ำตาลทอง เพื่อที่ให้เกิดกระบวนการ (Caramelization) หรือการไหม้ของน้ำตาลให้มีความหวานมากขึ้น ผลที่เกิดขึ้นต่อกลุ่ม คือ ลดระยะเวลาในการผลิตลง ลดการใช้แรงงานในการผลิต ลดต้นทุนในการผลิต และเกิดนวัตกรรมกระบวนการการผลิตชาดอกกาแฟด้วยภูมิปัญญาที่มีผลต่อรสชาติชาดอกกาแฟที่มีมาตรฐาน ผลกระทบที่เกิดขึ้น คือ ผู้บริโภคมั่นใจในผลิตภัณฑ์ชาดอกกาแฟ กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่กาแฟ เกิดการเผยแพร่นวัตกรรมกระบวนการการผลิตชาดอกกาแฟด้วยภูมิปัญญา
The purpose of this research were 1) to develop an innovative production process of Coffee Blossom Tea based on local wisdom 2) to develop the capacity of the production process of coffee PlaengYai agricultural groups in Nam Nao district, Phetchabun province and 3) to transfer knowledge about the innovative production process of Coffee Blossom Tea. The research was conducted on the basis of research and development (R&D). The research was Using community-based participatory action research techniques. From the sample consisting of coffee PlaengYai agricultural groups, community leaders, government agencies, and agencies relevant to coffee PlaengYai agricultural groups in Nam Nao district, Phetchabun province, 30 persons in total. The sample was selected by purposive sampling method. Research tools encompass questionnaires interviews, Civil Society Forum or People Forum and focus group. Content analysis was performed.
The results indicated as follows:
The research results revealed that 2 aspects of developing the innovative process for the production of Coffee Blossom Tea based on local wisdom were 1. Effects of the development of the innovative Coffee Blossom Tea production process: 1) Coffee Blossom Tea dryer is a drying machine sealed with mirror panels to bake Coffee Blossom Tea during the drying process. As a result, the coffee flowers dry, have desired moisture content, and can be stored longer, 2) Coffee Blossom Tea roaster made the coffee flowers dry and golden brown in color to achieve caramelization or a process of browning sugar to be sweeter. The effects on the groups were the production time was shorten, labor in the production was reduced, production costs were reduced , and an innovative process for the production of Coffee Blossom Tea based on local wisdom that affects the taste of Coffee Blossom Tea was generated with standards, making consumers trust in Coffee Blossom Tea product of the coffee Plaeng Yai agricultural groups. The innovative process for the production of Coffee Blossom Tea based on local wisdom was disseminated.
|
|---|
| คำสำคัญ |
นวัตกรรมกระบวนการการผลิต,ภูมิปัญญาท้องถิ่น,ชาดอกกาแฟ,innovative production process,based on local wisdom,Coffee Blossom Tea
|
|---|
