| บทคัดย่อ |
การวิจัยเรื่องกระบวนการยกระดับศักยภาพชุมชนเพื่อเข้าสู่การท่องเที่ยวโดยชุมชนด้วยนวัตกรรม กรณีศึกษา: ชุมชนบ้านหวาย อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ มีวัตถุประสงค์การศึกษา 3 ประการ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษานวัตกรรมกระบวนการพัฒนาศักยภาพชุมชนภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวโดยชุมชน 2) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนด้วยนวัตกรรมทางสังคม และ 3) เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชันเพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ใช้การวิจัยเชิงคุณภาพในครั้งนี้ใช้วิธีวิจัยเชิงกรณีศึกษา (Case Study Research Method) ทำการเก็บข้อมูลจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 50 คน โดยคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มประชาชนในพื้นที่ 19 คน 2) กลุ่มนักท่องเที่ยว 12 คน 3) กลุ่มคณะกรรมการชมรมท่องเที่ยว 6 คน 4) กลุ่มภาครัฐ 7 คน และ 5) กลุ่มภาคเอกชน 6 คน ตรวจสอบข้อมูลด้วยวิธีการสามเส้า ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหาและเหตุการณ์ และใช้สถิติเชิงพรรณนา
ผลการวิจัย พบว่า
1) ชุมชนบ้านหวายเป็นชุมชนที่มีศักยภาพในการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community-Based Tourism: CBT) เนื่องจากชุมชนบ้านหวายมีทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและทุนทางวัฒนธรรม มีองค์กรในการขับเคลื่อนกิจกรรมการท่องเที่ยว มีการบริหารจัดการด้วยชุมชน และมีกิจกรรมการเรียนรู้ของคนในชุมชน ที่จะนำมาเป็นสิ่งสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน แบ่งออกได้เป็น 5 หมวด ที่สำคัญ คือ 1) หมวดอาหารพื้นถิ่น 2) หมวดสถานที่สำคัญ 3) หมวดที่พัก 4) หมวดทรัพยากรทางธรรมชาติหรือแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตร และ 5) หมวดวัฒนธรรมและประเพณี
2) ประเด็นการยกระดับภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวโดยชุมชนด้วยนวัตกรรมทางสังคม ชุมชนต้องการสื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง และต้องการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาเที่ยวในชุมชนมากขึ้น โดยใช้ข้อมูลที่ชุมชนต้องการเน้นเส้นทางท่องเที่ยวตามแผ่นพับภาษาไทยที่ชุมชนได้ทำไว้ ได้แก่ การแนะนำสถานที่ (Describing Tourist Attractions) การแนะนำเส้นทาง (Giving Direction) การแนะนำอาหารพื้นถิ่น (Recommending Local Food) การแนะนำประเพณีและวัฒนธรรม (Explaining Traditions and Cultures) การแนะนำผลิตภัณฑ์ชุมชน (Explaining Local Products) และการแนะนำที่พัก (Recommending Accommodation)
3) ผลการพัฒนาแอพพลิเคชันเพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี พบว่า คุณภาพด้านเนื้อหาของเว็บแอพพลิเคชันมีคุณภาพอยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ย 3.80 ส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน 0.49 คุณภาพด้านสื่อและการออกแบบเว็บแอพพลิเคชันมีคุณภาพอยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ย 4.38 ส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน 0.69 และผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้ต่อเว็บแอพพลิเคชัน โดยรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ย 4.48 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.70
The research on the title of the process of enhancing community potential into community-based tourism by innovations: a case study of Ban Wai community, Lomsak District, Phetchabun Province had the main three objectives: 1) to study process innovation on order to develop the community potential based on community-based tourism concept, 2) to promote English language learning as a means of enhancing community-based tourism through social innovation., and 3) to develop web application to increase the potential of community-based tourism management through technological innovation. A Case Study Research Method was applied to data collection with fifty key informants who were selected by purposive sampling. They were divided into five groups: 1) nineteen people in the community, 2) twelve tourists, 3) six committees of Ban Wai community-based tourism, 4) seven people from the public sector, and 5) six people from the private sector. The data were verified by triangulation method and analyze data by content analysis and events as well as descriptive statistics.
The study's findings indicate the following:
1) The Ban Wai community have the capacity to arrange community tourism events under the umbrella of community tourism. (Community-Based Tourism: CBT) as a result of the Ban Wai community's cultural and natural resource capital. An organization that oversees tourism, manages the community, and provides educational opportunities for locals is in charge of organizing the five major types of community tourism activities that will be supported by it: The categories are as follows: 1) Local cuisine; 2) Important places; 3) Accommodation; 4) Natural resources or agricultural learning resources; and 5) Culture and traditions.
2) The community intends to promote English as a means of enhancing tourism through social innovation, and in order to attract more foreign and Thai visitors, self-learning resources are needed. Using information from brochures they have created in Thai, the community hopes to highlight tourism destinations. This includes suggesting locations (Describing tourism Attractions), suggesting routes (Giving Direction), and suggesting regional cuisine. Introducing customs and cultures (Explaining Customs and Cultures), introducing local goods (Explaining Local Products), suggesting lodging, and introducing local cuisine (Recommending Local Food). (Advising Accommodation)
3) The results of constructing an application that increased the potential of community tourist management through technological innovation revealed that the content quality of the web application is acceptable, with a mean of 3.80 and a standard deviation of 0.49 for media and web application design. The quality is satisfactory, with a mean of 4.38 and a standard deviation of 0.69, as well as the results of the web application's user satisfaction review. Overall, the quality is acceptable, with a mean score of 4.48 and a standard deviation of 0.70.
|
|---|
