| บทคัดย่อ |
โครงการวิจัย เรื่อง “การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรตลอดห่วงโซ่คุณค่าเพื่อเพิ่มศักยภาพของกลุ่มเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยกลไกประชารัฐ จังหวัดเพชรบูรณ์” เป็นการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว สินค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีมาตรฐาน และเพิ่มความสามารถการแข่งขัน โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาของผลผลิตทางการเกษตรที่ตกเกรด มีราคาต่ำ อายุในการเก็บรักษามีระยะสั้น ของเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยกลไกประชารัฐ จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่คาดหวังถึงการบริโภคอาหารสะอาดพืชผักปลอดภัย นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารแล้วยังเน้นการใช้ประโยชน์จากเศษเหลือหลังการเก็บเกี่ยวพืชผักสมุนไพร และเหลือกจากกระบวนการผลิตแปรรูปอาหาร นำไปสร้างเป็นวัสดุบรรจุหีบห่อ บรรจุภัณฑ์อาหาร และแผ่นหนังเทียมจากวัสดุธรรมชาติ สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) อีกทั้งมีการออกแบบตราสินค้า รูปแบบการจัดวางสินค้าเพื่อการขาย เป็นการยกระดับการพัฒนาสินค้าท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน โดยมีการศึกษาทั้งหมด 5 โครงการย่อย ดังนี้
โครงการย่อยที่ 1 ศึกษาการประเมินประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ด้วยวิธีการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยคิดแยกแต่ละรายการรายการดังนี้ การเตรียมวัตถุดิบ ผักกาดขาว 0.27 ขั้นตอนการผลิต พลังงานไฟฟ้า (เครื่องปั่น) 0.25 และ พลังงานไฟฟ้า (ตู้อบ) 0.28 ทั้งสิ้น มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 0.81 kgCO2 eq. สำหรับกระบวนการทำกระดาษ พบว่า ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาทั้งสิ้น 43.29 kgCO2 eq. โดยแบ่งออกเป็นจากสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ 33.71 พลังงานไฟฟ้า (เครื่องปั่น) 0.25 และเตาแก๊ส 9.33 ซึ่งการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผลิตภัณฑ์ผักแผ่นขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ 0.27 kgCO2 eq. และขั้นตอนการผลิต 0.53 kgCO2 eq. จะมีการใช้พลังงานสูงจึงมีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก มากกว่าขั้นตอนจัดเตรียมวัตถุ โดยสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ที่นำมาใช้ มีกระบวนการผลิตที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง
โครงการย่อยที่ 2 เรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยกลไกประชารัฐ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้นำผักกาดขาวมาศึกษาระยะเวลาการอบแห้งที่เหมาะสม โดยใช้การอบแห้งด้วยลมร้อนที่อุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียส อบแห้งให้ผักแผ่นมีความชื้นไม่เกินร้อยละ 10 พบว่า ได้ระยะเวลาอบแห้งที่ระยะเวลา 8 ชั่วโมง พัฒนาทางด้านรสชาติโดยทำการศึกษาปริมาณของส่วนปรุงรสที่มีต่อรสชาติของผักแผ่นที่ผู้บริโภคยอมรับปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และเกลือ เมื่อประเมินผลจากการยอมรับของผู้ประเมิน 40 คน พบว่า ระดับการปรุงรสระดับที่ 1 (สูตรที่ 2) โดยมีส่วนประกอบ คือ ผักกาดขาว น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และเกลือ คิดเป็นร้อยละ 97.59, 0.98, 0.98 และ 0.48 ตามลำดับ เป็นสูตรที่ได้รับการยอมรับสูงที่สุด
โครงการย่อยที่ 3 เรื่อง การใช้เศษเหลือหลังการเก็บเกี่ยวและการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรให้เกษตรกรกลุ่มเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยกลไกประชารัฐจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเลือก นำต้นข่าและตะไคร้ที่เป็นเศษเหลือทิ้งมาทดลองทำกระดาษตามกระบวนการผลิตกระดาษขึ้นรูปกระดาษ 100 แกรม จากผลการทดลองพบว่าคุณสมบัติของกระดาษที่ดีที่สุดคือต้นข่าและใบข่าผสมกัน มีน้ำหนักมาตรฐานของกระดาษค่าเท่ากับ 201.13 แกรม มีค่าความชื้นมีค่าเท่ากับ 6.93 เปอร์เซ็นต์ ดัชนีความต้านทานแรงดึงทะลุมากที่สุด มีค่าเท่ากับ 1 กิโลกรัมต่อตารางเมตร มีความต้านทานการดูดซับน้ำ มีค่าเท่ากับ 304.64 แกรมต่อตารางเมตร ดัชนีความต้านทานแรงฉีกขาดมากที่สุด มีค่าเท่ากับ 33.17 นิวตันเมตร ส่วนการคงรูปของกระดาษ มีค่าเท่ากับ 1634.33 นิวตันเมตร จากคุณสมบัติภาพรวมดังกล่าวจึงนำกระดาษจากต้นข่าและใบข่ามาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ มาใช้ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้ 6 แบบ ให้ผู้เชี่ยวชาญเลือกได้บรรจุภัณฑ์แบบที่ 2 เหมาะสมที่สุด นำมาสร้างบรรจุภัณฑ์ประเมินความพึงพอใจ พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อบรรจุภัณฑ์ มีค่าเฉลี่ย 4.70ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด นำไปถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการผลิตบรรจุภัณฑ์ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำคำพัฒนาและประชาชนทั่วไปผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ได้รับการอบรม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.67
โครงการย่อยที่ 4 เรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์หนังเทียมจากกาบกล้วยหินของกลุ่มเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยกลไกประชารัฐจังหวัดเพชรบูรณ์ ผลการวิจัยพบว่า ผลการทดสอบสมบัติวัลคาไนซ์ของหนังเทียมจากกาบกล้วยหิน พบว่า ยางคอมปาวด์ผสมเส้นใยกาบกล้วยหินแสดงพฤติกรรมการวัลคาไนซ์ของยางที่มีต่อผลต่างของแรงบิด มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของเส้นใยกาบกล้วยหินที่เพิ่มขึ้น ทำให้เวลาในการสุกของยางหรือเวลาของการสกอซ (ts1) และเวลาการวัลคาไนซ์ (tc90) ลดลงต่ำกว่ายางคอมปาวด์ที่ไม่มีการเติมเส้นใย ผลของสมบัติเชิงกลของหนังเทียมจากกาบกล้วยหิน พบว่า ค่าความต้านทานต่อแรงดึง (Tensile strength) ค่าความสามารถในการยืดจนขาด (% Elongation at break) พบว่า มีค่าลดลงอย่างต่อเนื่องตามปริมาณของเส้นใยกาบกล้วยหิน ส่วนค่าโมดูลัสที่ระยะยืด 100% และ 300% ค่าความต้านทานต่อการฉีกขาด (Tear Properties) ค่าการเสียรูปเนื่องจากการกด (Compression set) ค่าความแข็ง (Hardness) และค่าการสึกหรอ (Abrasion loss) พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามปริมาณของเส้นใยกาบกล้วยหิน ผลการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์หนังเทียมจากกาบกล้วยหิน พบว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์กระเป๋าเป็นรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด ได้ผลิตภัณฑ์กระเป๋าจำนวน 3 รูปแบบ คือ 1) รูปทรงกระเป๋าขนาดใหญ่ (Shopping Bag) 2) รูปทรงกระเป๋าขนาดกลาง (Trapeze Bag) และ 3) รูปทรงกระเป๋าขนาดเล็ก (Semi-circle Clutch Bag) ผลความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์หนังเทียมจากกาบกล้วยหิน พบว่า โดยภาพรวมผู้บริโภคมีความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์หนังเทียมจากกาบกล้วยหินทุกรูปแบบในระดับมากที่สุด
โครงการย่อยที่ 5 เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดแสดงสินค้าของกลุ่มเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยกลไกประชารัฐจังหวัดเพชรบูรณ์ ผลการวิจัยพบว่า ร้านค้าสำเร็จรูปรูปแบบที่ 1 แบบที่ 2 และรูปแบบที่ 4 มีค่าเฉลี่ยรวมความพึงพอใจของผู้เชี่ยวชาญในระดับพึงพอใจมากที่สุด ผู้บริโภค 100 คน มีความพึงพอใจต่อรูปแบบร้านค้าสำเร็จรูป แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p ≤ 0.05) รูปแบบที่ 3 มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามมากที่สุด 4.72 ± 0.33 อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 30 คน มีความพึงพอใจรวม 4.68 ± 0.35 อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด
The research project titled "Research and Development of Agricultural Products Throughout the Value Chain to Increase the Potential of Target Groups for Grassroots Economic Development with the Pracharath Mechanism, Phetchabun Province" is a research to develop innovations for promoting tourism, products, community products with standards and increasing competitiveness. Phetchabun province to get products that are beneficial to health respond to In addition to developing food products, it also focuses on the utilization of leftovers after harvesting vegetables, herbs, and leftovers from food processing processes. It is used to create packaging materials, food packaging, and artificial leather sheets from natural materials. Create eco-friendly products Reduce carbon dioxide emissions, which can be classified as a green economy. The merchandising model is to enhance the development of local products with a clear identity. A total of 5 sub-projects were studied. as follows
Subproject 1: Study on the assessment of the carbon footprint of the product by the method of assessing the carbon footprint of the product. There are greenhouse gas emissions by accounting for each item separately as follows: Preparation of raw materials Chinese cabbage 0.27 Production process Electric power (blender) 0.25 and electric power (incubator) 0.28 total. There are 0.81 kgCO2 eq of greenhouse gas emissions. 43.29 kgCO2 eq. It is divided into 33.71 sodium hydroxide solution. Electric power (blender) 0.25 and gas stove 9.33, which greenhouse gas emissions. Vegetable products, sheets, raw material preparation steps 0.27 kgCO2 eq. and the production process 0.53 kgCO2 eq. By sodium hydroxide solution adopted. It has a production process with high greenhouse gas emissions.
Subproject 2: Development of food products from agricultural products of target farmers To develop the foundation economy with the civil state mechanism, Phetchabun province has used Chinese cabbage to study the optimal drying period. By using hot air drying at a temperature of 65 °C. Drying vegetables to a moisture content of not more than 10 percent found that the drying time is 8 hours. Develop flavor by studying the amount of seasoning on the taste of vegetable plates that consumers accept as seasoning. Granulated sugar, soy sauce and salt When assessing the acceptance of 40 evaluators, it was found that the seasoning level 1 (Recipe 2), which consists of Chinese cabbage, granulated sugar, soy sauce and salt, was 97.59%, 0.98%, 0.98%, and 0.48%, respectively, as the highest accepted formulation.
Subproject 3: Use of post-harvest residues and processing of agricultural products for target farmers to develop the foundation economy with the civil state mechanism in Phetchabun province By selecting Galangal and lemongrass waste were used to experiment with making paper according to the process of forming 100gsm paper. The standard weight of the paper is 201.13 gsm. It has a moisture value of 6.93 percent. It is equal to 1 kilogram per square meter. It has water absorption resistance. It is equal to 304.64 grams per square meter. Greatest tear strength index It is equal to 33.17 Nm. Shape retention part of paper It is equal to 1634.33 Nm. Based on these overall features, galangal and galangal leaves can be used in 6 types of packaging design, allowing experts to choose the most suitable type 2 packaging. Bring it to create satisfaction assessment packaging. It was found that the subjects were satisfied with the packaging. It has an average of 4.70.Satisfaction is at the highest level. To transfer knowledge and packaging production technology to Ban Nam Kham Pattana community enterprise group and the general public, the satisfaction assessment results of the trainees were at the highest level. Avg. score 4.67.
Subproject 4: Development of artificial leather products from banana stone cladding of target groups for the development of the foundation economy with the civil state mechanism of Phetchabun province The results showed that the results of the vulcanization properties of artificial leather from stone banana cladding It was found that compound rubber mixed with banana leaf fibers showed vulcanization behavior of rubber on torque difference. There is a tendency to increase with the proportion of stone banana bract fibers increasing. As a result, the ripening time or scotch time (TS1) and vulcanization time (TC90) are lower than those of compound tires without fiber filling. Effect of mechanical properties of artificial leather from stone banana cladding It was found that the tensile strength and % Elongation at break were found to decrease continuously with the amount of stone banana fiber Modulus at 100% and 300% stretch is tear resistance. Tear properties, compression set, hardness and abrasion loss were found to increase with the amount of stone banana fiber fibers. Design and development of artificial leather products from stone banana cladding It was found that the development of bag products is the most suitable style, resulting in 3 types of bag products: 1) large bag shape (Shopping Bag), 2) medium bag shape (Trapeze Bag), and 3) Semi-circle clutch bag shape. It was found that overall consumers are satisfied with artificial leather products from all forms of stone cladding to the highest extent.
Subproject 5: Development of product exhibition model of target groups for foundation economic development with the civil state mechanism in Phetchabun province The results showed that Type 1, Type 2 and Pattern 4 instant stores had the highest average level of expert satisfaction. 100 consumers there is satisfaction with the ready-made store model. Statistically significant difference (p ≤ 0.05) model 3 had the most average satisfaction of respondents, 4.72 ± 0.33 was at the most satisfactory level. 30 participants were 4.68 ± 0.35 overall satisfied.
|
|---|
| คำสำคัญ |
Development of Agricultural Products,Agricultural waste,Value chain,Green Economy,Phetchabun Province,การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร,เศษเหลือทางการเกษตรห่วงโซ่คุณค่า,เศรษฐกิจสีเขียว,จังหวัดเพชรบูรณ์
|
|---|
