| บทคัดย่อ |
งานวิจัยนี้นำเสนอการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในกระบวนการผลิต แปรรูป และเพิ่มมูลค่าจากเศษเหลือทิ้งของมะขามสำหรับผู้ประกอบการในจังหวัดเพชรบูรณ์ ผลการใช้งานการวิจัยมีความพึงพอใจอยู่ในเกณฑ์พึงพอใจมากที่สุด ซึ่งผลการดำเนินการวิจัยประกอบด้วย
ผลเทคโนโลยีการอบฆ่ามอดมะขามหวานแบบสายพานลำเลียงด้วยแสงอินฟราเรด จากการการอบมะขาม 100 ฝัก อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 80 องศาเซลเซียส โดยจะใช้ ความเร็วรอบที่ 4.67 รอบต่อนาที เวลาที่ใช้ในการอบจะอยู่ที่ 268 วินาที สีมะขามคงเดิมถึง 95 ฝัก และสามารถกำจัดมอดได้ 98 เปอร์เซ็นต์
ผลเครื่องย้ำก้อนมะขามแบบคานให้ตัวได้ ประกอบด้วย ชุดโครงสร้างเครื่อง ชุดสร้างกำลังอัด ชุดอัดก้อน ชุดแท่นขึ้นรูปก้อนมะขาม ชุดคานรองรับก้อนมะขาม ชุดควบคุมการทำงาน ชุดฝาครอบเครื่อง และชุดฐานรองรับตัวเครื่อง ผลการทดสอบประสิทธิภาพแรงดันลมที่เหมาะสม คือ 6 บาร์ ปริมาณการผลิต 20 ก้อน เวลาในการทำงาน 1.28 นาที ลักษณะของก้อนมะขามหลังการย้ำขนาดก้อนมะขามหลังขึ้นรูปเฉลี่ย 24 x 24.25 x 17.60 มิลลิเมตร เปอร์เซ็นการคืนตัวของกระดาษฟอยล์อลูมิเนียมที่ห่อก้อนมะขาม พบว่า คืนตัว 2 ก้อน คิดเป็นร้อยละ 10 เปอร์เซ็นต์ ไม่คืนตัว 18 ก้อน คิดเป็นร้อยละ 90 เปอร์เซ็นต์
ผลการศึกษาสมบัติทางกายภาพของบรรจุภัณฑ์กระถางรกมะขามที่ใช้น้ำยางพาราพรีวัลคาไนซ์ เป็นตัวประสาน ลักษณะของบรรจุภัณฑ์กระถางจากการทดลองอัดขึ้นรูปในอัตราส่วนรกมะขามต่อน้ำยางพาราพรีวัลคาไนส์โดยน้ำหนัก พบว่าลักษณะรูปทรงของบรรจุภัณฑ์กระถางที่มีความแข็งแรงและคงรูปทรงมากที่สุดอยู่ในอัตราส่วน 1:2 และ 1:1 ขึ้นรูปที่อุณหภูมิ 130 องศาเซลเซียส ที่เวลา 15 นาที ส่วนอัตราส่วน 1:0.5 ลักษณะรูปทรงของบรรจุภัณฑ์กระถางมีลักษณะไม่แข็งแรงมีความอ่อนตัวน้ำยางพาราพรีวัลคาไนส์ประสานกับรกมะขามได้ไม่ทั่วถึง สมบัติทางกายภาพ พบว่า ค่าความหนาแน่นของบรรจุภัณฑ์กระถางที่อัตราส่วนแตกต่างกันพบว่าค่าความหนาแน่นรวมอยู่ในช่วง 370-520 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่าการดูดซับน้ำของบรรจุภัณฑ์กระถางพบว่าอัตราส่วนที่มีค่าเปอร์เซ็นการดูดซับน้ำเรียงลำดับจากมากไปน้อยคือ อัตราส่วน 1:0.5 1:1 และ 1:2
ผลการพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตเชื้อเพลิงถ่านอัดแท่งจากวัสดุเหลือทิ้งจากมะขาม โดยผลการเปรียบเทียบเทคโนโลยีเตาเผาถ่าน 2 รูปแบบ พบว่าการใช้งานเตารูปแบบที่สามารถผลิตน้ำส้มควันไม้ได้ด้วยจะมีต้นทุนในการผลิตเตาต่ำ ความคุ้มค่า และความเหมาะสมกับการใช้งาน จากผลการทดสอบค่าความร้อนของถ่านอัดแท่งจากวัสดุเหลือทิ้งจากมะขามทั้งหมด 22 สูตร พบว่าสูตรการผลิตถ่านอัดแท่งจากวัสดุเหลือทิ้งจากมะขามทุกสูตรมีค่าใกล้เคียงกันและมีค่าความร้อนไม่น้อยกว่า 5,000 กิโลแคลอรี่/กิโลกรัม ซึ่งผ่านเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนถ่านอัดแท่ง(มผช. 238/2547) โดยสูตรที่มีค่าค่าความร้อนสูงที่สุด คือ สูตรที่ 1 มีค่าความร้อนเท่ากับ 6,720 กิโลแคลอรี่/กิโลกรัม ความชื้นไม่เกิน 8 % , ดัชนีการแตกร่วนมีค่าอยู่ระหว่าง 0.50 - 1.0 ประสิทธิภาพการใช้งานของความร้อนของถ่านอัดแท่งจากวัสดุเหลือทิ้งจากมะขามสูตรที่ให้ความร้อนได้ยาวนานที่สุด ซึ่งทำให้น้ำในหม้อมีอุณหภูมิลดลงประมาณ 50 องศาเซลเซียส ที่เวลา 305 นาที ขณะถ่านอัดแท่งติดไฟจะไม่มีสะเก็ดไฟกระเด็น ไม่มีควัน และกลิ่นเกิดขึ้น ผลอัตราส่วนผสมในการผลิตถ่านอัดแท่งที่เหมาะสม คือ ผงถ่านกิ่งมะขาม : แป้งมันสำปะหลัง : น้ำ เท่ากับ 10 : 0.5 : 3 กิโลกรัม ซึ่งมีความแม่นยำในการทำนาย 78.41% ในกรณีต้องการที่จะผสมวัตถุดิบระหว่างกิ่งไม้มะขามกับรกและเปลือกมะขามสำหรับการผลิตถ่านอัดแท่ง อัตราส่วนผสมที่เหมาะสมที่สุด คือ กิ่งไม้มะขาม : รกและเปลือกมะขาม : แป้งมันสำปะหลัง เท่ากับ 9 : 1 : 0.5 กิโลกรัม ซึ่งมีความแม่นยำในการทำนาย 78.05%
ผลการพัฒนานวัตกรรมเครื่องผลิตก้อนขี้เบ้าสำหรับวัสดุปลูกพืชที่มีเศษเหลือจากกระบวนการผลิตถ่านมะขามประสิทธิภาพสูง พบว่า ความพึงพอใจในการออกแบบเทคโนโลยีผลิตก้อนขี้เบ้าสำหรับวัสดุปลูกพืชที่มีเศษเหลือจากกระบวนการผลิตถ่านมะขาม ระดับความพึงพอใจในภาพรวมมีค่าเฉลี่ย 4.41 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.49 มีค่าคะแนนความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก การสร้างเทคโนโลยีผลิตก้อนขี้เบ้า ระดับความพึงพอใจของผู้เชี่ยวชาญในภาพรวมมีค่าเฉลี่ย 4.41 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.54 มีค่าคะแนนความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก การทดสอบเม็ดดินขี้เบ้าในแต่ละอัตราส่วนต่าง ๆ คือ อัตราส่วนวัสดุเหลือทิ้งเศษเหลือจากกระบวนการผลิตถ่านมะขาม : ดินเหนียว มีค่า 0 : 100, 10 : 90, 20 : 80, 30 : 70 และ 40 : 60 มีค่าความหนาแน่นลดลงตามอัตราส่วนของวัสดุที่เพิ่มขึ้น เม็ดดินขี้เบ้าที่มีส่วนผสมของวัสดุเหลือทิ้งกระบวนการผลิตถ่านมะขามร้อยละ 40 ให้ค่าความหนาแน่นต่ำที่สุดในช่วง 703.9 – 1,108.11 kg/m3 เมื่อเปรียบเทียบกับเม็ดดินขี้เบ้าจากดินเหนียวที่ผลิตจากกระบวนการแบบเดียวกันมีความหนาแน่นที่ลดลงถึง 54.4 % - 83.0 %
ผลการถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในกระบวนการผลิต แปรรูป และเพิ่มมูลค่าจากเศษเหลือทิ้งของมะขามสำหรับผู้ประกอบการในจังหวัดเพชรบูรณ์ คือ ด้านความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก และด้านความพึงพอใจจากการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี อยู่ในระดับมากที่สุด
This research presents the development of innovation and technology in the process of processing, processing and adding value of waste of tamarind for entrepreneurs in phetchabun province. The results of the research use are satisfactory in the most satisfactory level. The results of the research include.
Results of conveyor belt drying technology to kill sweet tamarind moths using infrared light. From baking 100 tamarind pods, the optimum temperature is 80 degrees Celsius using a rotation speed of 4.67 rpm. The baking time will be 268 seconds. The color of tamarind remains the same for 95 pods and can eliminate 98 percent of weevils.
Results of the machine for crimping tamarind cubes in a beam-type manner consist of a set of machine structures. Compression force creation set, briquetting set, tamarind lump forming stand set Set of beams supporting tamarind blocks work control unit Machine cover set and a set of bases to support the machine The results of the test for the appropriate air pressure efficiency were 6 bars, the production volume was 20 blocks, the working time was 1.28 minutes, the characteristics of the tamarind blocks after crimping, the average size of the tamarind blocks after forming was 24 x 24.25 x 17.60 millimeters, the percentage of paper recovery. Aluminum foil wrapped in tamarind cubes was found to recover in 2 cubes, accounting for 10 percent. 18 cubes did not recover, accounting for 90 percent.
Results of the study of physical properties of tamarind placenta pot packaging using prevulcanized latex. as a binder Characteristics of pot packaging from extrusion experiments with the ratio of tamarind placenta to pre-vulcanized latex by weight. It was found that the shape of the pot packaging that was the strongest and most stable was in the 1:2 and 1:1 ratios formed at 130 degrees Celsius for 15 minutes, while the 1:0.5 ratio was the shape of the container. The potted product is not strong and is weak. The pre-vulcanized latex does not coordinate well with the tamarind placenta. Physical properties found that the density values of pot packaging at different ratios were found to be in the range of 370-520 milligrams per cubic meter. The water absorption values of pot packaging were found to be the ratios with water absorption percentages ordered from highest to lowest, namely 1:0.5, 1:1, and 1:2.
Results of technology development in the production of charcoal briquettes from tamarind waste materials. The results of comparing the two types of charcoal kiln technology found that using a type of kiln that can also produce wood vinegar will have a low cost of kiln production, value for money, and suitability for use. From the results of testing the calorific value of charcoal briquettes from tamarind waste material, all 22 formulas found that all formulas for producing charcoal briquettes from tamarind waste material have similar values and have a calorific value of not less than 5,000. kilocalories/kg which passed the standard for community charcoal briquette products (No. 238/2004) The formula with the highest calorific value is Formula 1, which has a calorific value equal to 6,720 kilocalories/kg. Moisture is not more than 8%, the brittleness index is between 0.50 - 1.0. The heat efficiency of charcoal briquettes from tamarind waste material is the formula that provides the longest heat. This causes the water temperature in the pot to drop by about 50 degrees Celsius at 305 minutes. When the charcoal briquettes are lit, there will be no sparks flying, no smoke, or odors. The appropriate mixture ratio for producing charcoal briquettes is tamarind branch charcoal powder : cassava starch : water equal to 10 : 0.5 : 3 kilograms, which has a prediction accuracy of 78.41% in the case of wanting to mix raw materials between tamarind branches and placenta. and tamarind peels for the production of charcoal briquettes The most appropriate mixture ratio is tamarind twigs: placenta and tamarind peel: cassava starch equal to 9 : 1 : 0.5 kilograms, which has a prediction accuracy of 78.05%.
Results of the development of an innovative machine to produce sap pellets for planting materials with residues from the tamarind charcoal production process showed that there was satisfaction in the design of the technology for producing sap pellets for planting materials with residues from the tamarind charcoal production process. The overall level of satisfaction has a mean of 4.41, a standard deviation of 0.49, and the opinion score is at a high level. Creation of technology for producing dung powder the overall satisfaction level of experts has a mean of 4.41, a standard deviation of 0.54, and the opinion score is at a high level. Testing of clay pellets in different ratios, namely the ratio of waste materials left over from the tamarind charcoal production process: clay, has values of 0 : 100, 10 : 90, 20 : 80, 30 : 70 and 40 : 60. Density decreases as the material ratio increases. Khe Bao soil pellets containing 40 percent of tamarind charcoal production waste materials gave the lowest density values in the range of 703.9 - 1,108.11 kg/m3 when compared to Khe Bao soil pellets from clay produced from the same process. Density decreased to 54.4 % - 83.0%.
Results of technology transfer, development of innovation and technology in the process of processing, processing and adding value of waste of tamarind for entrepreneurs in phetchabun province. Are satisfaction in organizing technology transfer activities, satisfaction. at a high level and satisfaction from receiving technology transfer at the highest level
|
|---|
