| บทคัดย่อ |
การวิจัยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการยกระดับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติ 2) สร้างหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม 3) ทดลองนำร่องหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม 4) ประเมินหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม
ดำเนินการวิจัยตามระเบียบวิธีการวิจัยแบบการวิจัยและพัฒนา (Research& Development: R&D) 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ศึกษาความต้องการจำเป็นในการยกระดับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติ โดยการสอบถามครู ผู้บริหารและผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 44 คน ด้วยแบบสอบถาม 2 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 2 สร้างหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนภาคบังคับ เรื่อง แรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติในอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ใน 2 ขั้นตอนคือ 1) ผู้วิจัยวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจากระยะที่ 1 เพื่อสร้างร่างสร้างหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม 2) ตรวจสอบความถูกต้องและความตรงโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 25 คนด้วยแบบประเมินความเหมาะสม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 3 การทดลองนำร่องหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมโดยครูประจำชั้นเป็นผู้ทดลองให้กับนักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านโนนสะอาด จำนวน 30 คน เป็นเวลา 20 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้มี 3 ชนิด คือ ) หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมฯและเอกสารประกอบหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม 2) แบบทดสอบก่อน-หลังเรียนหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม 3) แบบประเมินแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัย การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการวิจัยกึ่งทดลองแบบ One Group Pre- Posttest Design การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างก่อนทดลองและหลังทดลองด้วยค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test Dependent) ระยะที่ 4 การประเมินหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม โดยใช้แบบประเมินตามแนวทาง CIPP กับครูและนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลลัพธ์ของการวิจัยนี้ประกอบด้วย
1. หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนภาคบังคับเรื่อง การยกระดับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติมีความจำเป็นในระดับมากที่สุด ดังนี้
การยกระดับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยตรงกับปัญหาและความต้องการของชุมชน เป็นสิ่งจำเป็นที่โรงเรียนต้องจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ในลักษณะของหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมซึ่งเป็นรายวิชาเพิ่มเติมในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อันเป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุในครอบครัวเนื่องจากมีเนื้อหามาจากสภาพปัญหาหรือความต้องการของผู้เรียนและชุมชนรวมทั้งตอบสนองชีวิตจริงของผู้เรียนที่เป็นปัจจุบัน
หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนภาคบังคับ การยกระดับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติ มีเนื้อหา ดังนี้ 1) ความนำ 2) วิสัยทัศน์ 3) หลักการ 4) จุดหมาย 5) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7) ระดับการศึกษา 8) การจัดเวลาเรียน 9) โครงสร้างและเวลาเรียน 10) การจัดการเรียนรู้ 11) สื่อการเรียนรู้ 12) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
ความต้องการการยกระดับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติในอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ 1) ด้านร่างกาย 2) ด้านจิตใจ 3) ความสัมพันธ์ทางสังคม 4) ด้านสิ่งแวดล้อม
2. หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนภาคบังคับเรื่อง แรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติในอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วย 13 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) ความนำ กล่าวถึงทิศทาง แนวโน้มของสังคม และครอบครัวที่เปลี่ยนแปลง และส่งผลต่อวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุในครอบครัว ซึ่งกระทบต่อแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัย 2) วิสัยทัศน์ คือ พัฒนาผู้เรียนเพื่อผู้สูงอายุมีคุณภาพ 4 มิติ 3) หลักการคือ โรงเรียนจัดทำหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมเพื่อการยกระดับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติ และเป็นการหล่อหลอมเยาวชนของชาติตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 4) จุดหมาย คือ ครอบคลุม 3 ด้าน คือพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัยด้านแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติ 5) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และ6) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ให้เป็นไปตามหลักสูตรแกนกลาง 7) ระดับการศึกษา คือ การศึกษาภาคบังคับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 8) การจัดเวลาเรียน จำนวน 20 ชั่วโมง 9) โครงสร้างและเวลาเรียน มีโครงสร้างคือ รหัส วิชา ชั้น จำนวนหน่วยกิต เวลาเรียน 10) การจัดการเรียนรู้ โดยจัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 11) สื่อการเรียนรู้ ใช้สื่อจากสถานการณ์จริง สื่อออนไลน์ และการเรียนรู้โดยใช้ชุมชน/ครอบครัวเป็นฐาน 12) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ต้องครอบคลุมพฤติกรรมทางการศึกษาทั้ง 3 ด้าน คือ ด้าน ความรู้ จิตใจ และทักษะการปฏิบัติ13) ผังมโนทัศน์การจัดหน่วยการเรียนรู้ และหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมมีความเหมาะสมในการนำไปใช้ทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการทดลองนำร่องหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม พบว่า 3.1) ความรู้เกี่ยวกับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติ หลังเรียนด้วยหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีระดับนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 3.2) ระดับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติตามความคิดเห็นของนักเรียนหลังเรียนด้วยหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีระดับนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 3.3) ระดับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมในสังคมสูงวัยเพื่อคุณภาพผู้สูงอายุ 4 มิติตามความคิดเห็นของผู้ปกครอง หลังเรียนด้วยหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีระดับนัยสำคัญที่ระดับ 0.01
4. ผลการประเมินหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม พบว่า 4.1) ผลการประเมินหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมตามความคิดเห็นของครู พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด ( x̄ = 4.2633, S.D. = .18848) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านปัจจัยป้อน อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.5067, S.D. = .31045) ส่วนด้านด้านบริบทกระบวนการและผลิตผล อยู่ในระดับมาก 4.2) ผลการประเมินหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมตามความคิดเห็นของนักเรียน พบว่า ในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.3600, S.D. = .28840)
This research aimed to 1) study the needs for enhancing social cohesion in an aging society for the 4-dimensional quality of the elderly; 2) create an additional course curriculum; 3) pilot the additional course curriculum; and 4) evaluate the additional course curriculum. The research was conducted according to the Research & Development (R&D) research methodology in 4 phases as follows: Phase 1: Study the needs for enhancing social cohesion in an aging society for the 4-dimensional quality of the elderly by surveying 44 teachers, administrators, and parents of students with 2 questionnaires. Data were analyzed using frequency, percentage, mean, and standard deviation. Phase 2: Create an additional course curriculum for compulsory students on the topic of Social Cohesion in an Aging Society for the 4-dimensional quality of the elderly in Mueang District, Phetchabun Province in 2 steps: 1) The researcher analyzed and synthesized data from Phase 1 to create a draft of the additional course curriculum. 2) Check the accuracy and validity by 25 experts using an appropriateness assessment form. Data were analyzed using frequency, percentage, mean and standard deviation. Phase 3: Pilot experiment of additional course curriculum by homeroom teachers for 30 students in Grade 6, Semester 2, Academic Year 2023, Ban Non Sa-at School for 20 hours. There were 3 types of instruments used: ) Additional course curriculum and additional course curriculum documents 2) Pre- and post-test for additional course curriculum 3) Assessment of social cohesion in the elderly society Data were collected using the One Group Pre-Posttest Design quasi-experimental research method. Data were analyzed using means and standard deviations and comparing the differences between the pre- and post-tests using a non-independent t-test. Phase 4: Assessment of additional course curriculum using the CIPP assessment form with teachers and students. Data were analyzed using means and standard deviations.
The results of the research found that:
1. Additional course curriculum for compulsory students on The enhancement of social cohesion in the aging society for the quality of the elderly in 4 dimensions is most important as follows:
The enhancement of social cohesion in the aging society in line with the problems and needs of the community is necessary for schools to organize learning for learners in the form of additional course subjects, which are additional courses in the social studies, religion and culture group, which are beneficial to the elderly in the family because the content comes from the problems or needs of the learners and the community, as well as responding to the real lives of the learners at present.
The additional course curriculum for compulsory students, the enhancement of social cohesion in the aging society for the quality of the elderly in 4 dimensions, has the following content: 1) Introduction 2) Vision 3) Principles 4) Objectives 5) Key competencies of learners 6) Desirable characteristics 7) Education level 8) Class time management 9) Class structure and time 10) Learning management 11) Learning media 12) Measurement and evaluation of learning results
The need for the enhancement of social cohesion in the aging society for the quality of the elderly in 4 dimensions in Mueang District Phetchabun Province 1) Physical 2) Mental 3) Social relations 4) Environmental 2. Additional course curriculum for compulsory students on Social Bonding in an Aging Society for the Quality of the Elderly in 4 Dimensions in Mueang District, Phetchabun Province, consists of 13 components as follows: 1) Introduction: Discussing the direction, trends of society and families that have changed and affected the lifestyles and well-being of the elderly in the family, which affects the social bonding in an aging society. 2) Vision: Developing learners for the elderly with 4 dimensions of quality. 3) Principle: The school creates an additional course curriculum to enhance the social bonding in an aging society for the quality of the elderly in 4 dimensions and to mold the youth of the nation according to the desired characteristics. 4) Objective: Covering 3 dimensions: cognitive domain, affective domain, and skills domain of social bonding in an aging society for the quality of the elderly in 4 dimensions. 5) Key competencies of learners and 6) Desirable characteristics. In accordance with the core curriculum 7) Education level is compulsory education, grade 6. 8) Class time is 20 hours. 9) Class structure and time is structured as follows: subject code, grade, number of credits, class time. 10) Learning management is managed with a focus on learners. 11) Learning media use media from real situations, online media, and learning using the community/family as a base. 12) Learning measurement and evaluation must cover all 3 educational behaviors: knowledge, mind, and practical skills. 13) Concept map for organizing learning units. And the additional course curriculum is most appropriate for application in all components.
3. The results of the additional course curriculum pilot found that 3.1) Knowledge about social cohesion in the aging society for the quality of the elderly in 4 dimensions after studying with the additional course curriculum was significantly higher than before studying at the 0.01 level. 3.2) The level of social cohesion in the aging society for the quality of the elderly in 4 dimensions according to the opinions of students after studying with the additional course curriculum was significantly higher than before studying at the 0.01 level. 3.3) The level of social cohesion in the aging society for the quality of the elderly in 4 dimensions according to the opinions of parents after studying with the additional course curriculum was significantly higher than before studying at the 0.01 level.
4. The results of the evaluation of the additional course curriculum found that 4.1) The results of the evaluation of the additional course curriculum according to the teachers' opinions found that overall it was at the highest level ( x̄ = 4.2633, S.D. = .18848). When considering each aspect, it was found that the input aspect was at the highest level ( x̄ = 4.5067, S.D. = .31045), while the context, process and products aspects were at a high level. 4.2) The results of the evaluation of the additional course curriculum according to the students' opinions found that overall it was at the highest level and each aspect ( x̄ = 4.3600, S.D. = .28840).
|
|---|
