| บทคัดย่อ |
จากการศึกษาสารสำคัญทางเคมีจากใบพะยูงไหหลำในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรเพื่อสุขภาพบ้านเฮา ตำบลบ้านโคก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์มีวัตถุประสงค์คือ 1) ศึกษาสารสกัดและองค์ประกอบทางเคมีของใบพะยูงไหหลำ โดยใช้เทคนิค Nuclear Magnetic Resonance (NMR) Spectroscope 2) ศึกษาฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระของใบพะยูงไหหลำ โดยใช้เทคนิค 2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl (DPPH) Ferric reducing antioxidant power (FRAP) ตรวจวิเคราะห์หาปริมาณฟีนอลิก และตรวจวิเคราะห์หาปริมาณฟลาโวนอยด์ โดยพบสารที่เป็นองค์ประกอบของ primary metabolites ได้แก่ กลุ่มน้ำตาล ได้แก่ กลูโคส กาแลคโทส มอลโทส และทรีฮาโลส กรดอะมิโน ได้แก่ ฟีนิลอะลานีน ไอโซลิวซีน และสาร secondary metabolites ที่สำคัญได้แก่ eugenol kaempferol gallic acid naringenin และ ferulic การตรวจหาฤทธิ์การต้านสารอนุมูลอิสระโดยเทคนิค DPPH พบว่าสารสกัดใบพะยูงไหหลำมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่ความเข้มข้น 1 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ที่ร้อยละ 6.98 ± 0.64 โดยค่าความเข้มข้นที่สามารถต้านอนุมูลอิสระที่ร้อยละ 50 (EC50) อยู่ที่ 306.30 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ทดสอบด้วยเทคนิค ferric reducing power (FRAP) พบว่าในสารสกัดใบพะยูงไหหลำ 1 มิลลิกรัม มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่ากับ 135.11 ± 7.52 ไมโครกรัม ของสารมาตรฐาน Ascorbic acid (AAE) ปริมาณสารปริมาณฟีนอลิกของสารสกัดใบพะยูงไหหลำ มีค่าเท่ากับ 343.04 ± 21.66 มิลลิกรัมสมมูลของกรดแกลลิกต่อกรัมน้ำหนักแห้งของสารสกัดใบพะยูงไหหลำ มีปริมาณสารประกอบฟลาโวนอยด์ มีค่าเท่ากับ 77.78 ± 4.65 มิลลิกรัมสมมูลของเควอซิทินต่อกรัมน้ำหนักแห้งของสารสกัดใบพะยูงไหหลำ งานวิจัยวิจัยนี้พบว่าพะยูงไหหลำมีสารสำคัญได้แก่ ferulic จะช่วยในการละลายของวิตามินซี มีความเสถียร สามารถนำไปต่อยอดทำเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้สามารถนำสารสกัดนี้ไปทดสอบเพิ่มเติมเพื่อหาสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (Active compound) เพื่อศึกษาในเชิงลึกถึงฤทธิ์ของสารสำคัญนั้น ๆ เพื่อใช้พัฒนาทางการแพทย์ต่อไป
This study conducted in the Ban Hao Healthy Herbal Community Enterprise Group, Ban Khok Subdistrict, Mueang District, Phetchabun Province, aimed to investigate the chemical composition and antioxidant properties of Dalbergia odorifera T.chen leaves. Firstly, the study utilized Nuclear Magnetic Resonance (NMR) Spectroscopy to analyze the extracts and chemical composition of the leaves. Secondly, the antioxidant power of the leaves was assessed using the 2, 2-diphenyl-1-picrylhydrazyl (DPPH) and Ferric Reducing Antioxidant Power (FRAP) techniques, alongside the analysis of phenolic and flavonoid content. The primary metabolites identified included sugars (glucose, galactose, maltose, and trehalose), amino acids (phenylalanine, isoleucine), and significant secondary metabolites (eugenol, kaempferol, gallic acid, naringenin, and ferulic acid). Results showed that Dalbergia odorifera T.chen leaf extract exhibited antioxidant activity at a concentration of 1 mg/mL, with an EC50 value of 306.30 mg/mL for the DPPH assay. Using the FRAP technique, it was determined that 1 mg of the extract equaled 135.11 ± 7.52 micrograms of ascorbic acid equivalents (AAE). The phenolic content of the extract was measured at 343.04 ± 21.66 milligrams equivalent of gallic acid per gram of dry weight, while the flavonoid content was 77.78 ± 4.65 milligrams equivalent to quercetin per gram of dry weight. The study also highlighted the presence of important substances like ferulic acid in Dalbergia odorifera T.chen, which could enhance the solubility of vitamin C, potentially contributing to the development of antioxidant-rich sunscreen products. Furthermore, the extract holds promise for further investigation into biologically active compounds, paving the way for potential advancements in medical development.
|
|---|
| คำสำคัญ |
สารสำคัญ,ใบพะยูงไหหลำ,วิสาหกิจชุมชน,เพชรบูรณ์,Important substances,Dalbergia odorifera T.chen leaves,community enterprise,Phetchabun
|
|---|
