| บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และบริบทของสถานศึกษาระดับปฐมวัยสำหรับการพัฒนาศักยภาพครูปฐมวัยในการจัดการความรู้สำหรับเด็กปฐมวัยยุคดิจิทัล 2) เพื่อสร้างและพัฒนาศักยภาพครูปฐมวัยในการจัดการความรู้สำหรับเด็กปฐมวัยยุคดิจิทัล และ 3)เพื่อประเมินความพึงพอใจของครูปฐมวัยที่มีต่อการการพัฒนาศักยภาพครูปฐมวัยในการจัดการความรู้สำหรับเด็กปฐมวัยยุคดิจิทัลรูปแบบการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และบริบทของสถานศึกษาระดับปฐมวัยสำหรับการพัฒนาศักยภาพครูปฐมวัยในการจัดการความรู้สำหรับเด็กปฐมวัยยุคดิจิทัล เครื่องมือ คือแบบสัมภาษณ์เกี่ยวกับหลักการ แนวคิด แนวทางในการพัฒนาศักยภาพครูปฐมวัยในการจัดการความรู้สำหรับเด็กปฐมวัยยุคดิจิทัลและแบบสอบถามในเรื่องแนวทางการปฏิบัติที่จะพัฒนาศักยภาพครูปฐมวัยในการจัดการความรู้สำหรับเด็กปฐมวัยยุคดิจิทัลขั้นตอนที่ 2 สร้างและพัฒนาศักยภาพครูปฐมวัยในการจัดการความรู้สำหรับเด็กปฐมวัยยุคดิจิทัลและจัดทำคู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ระยะที่ 1 ได้แก่ แบบประเมินรูปแบบการจัดการความรู้สำหรับเด็กปฐมวัยยุคดิจิทัลแบบประเมินศักยภาพครูด้านดิจิทัลและแผนการจัดกิจกรรมตามรูปแบบการจัดการความรู้สำหรับเด็กปฐมวัยยุคดิจิทัลกลุ่มตัวอย่างเป็นครูปฐมวัย จำนวน 40 คน เข้ารับการอบรม และทดลองใช้รูปแบบ รูปแบบการจัดการความรู้สำหรับเด็กปฐมวัยยุคดิจิทัลในสถานศึกษา ขั้นตอนที่ 3 การประเมินการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ของครูปฐมวัยโดยใช้การประเมินปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลผลิตใช้สถิติทดสอบค่า t (t-test) และค่าร้อยละ
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษา 1) ครูปฐมวัยควรมีประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ระดับปฐมวัยในสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงการจัดการศึกษาในรูปแบบออนไลด์ 2) ครูควรมีการใช้เทคโนโลยีในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่หลากหลายเช่น การสืบค้นข้อมูลทาง Google การใช้กิจกรรมความรู้จาก YouTube Live worksheet การสร้างสื่อจาก Canva และ Power Point 3) องค์ประกอบของรูปแบบ บทบาทครู บทบาทผู้เรียนที่ใช้การบูรณาการทักษะยุคดิจิทัล 4 กระบวนการ คือ 1) การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ของครู และสถานศึกษา 2) กระบวนการการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 3) การพัฒนานวัตกรรมปฐมวัยศึกษาที่บูรณาการ การใช้เทคโนโลยีกับการพัฒนานวัตกรรมการจัดการความรู้แก่เด็ก 4) ชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC : Professional Learning Community) และการประยุกต์ใช้นวัตกรรมยุคดิจิทัล การวัดและประเมินผลด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน และหาแนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการเรียนรู้
2. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นคือ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เนื้อหา 4) กระบวนการเรียนการสอน 5) สื่อและแหล่งเรียนรู้ 6) การวัดและประเมินผล ผลการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่ารูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสม และความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุดการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นพบว่าครูปฐมวัย หลังได้รับการพัฒนาตาม มีศักยภาพสูงขึ้น สูงขึ้นร้อยละ85.82 อยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.29, SD = 0.62)
3. ผลการประเมินความคิดเห็นของครูปฐมวัยที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการความรู้สำหรับเด็กปฐมวัยยุคดิจิทัลอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.17, S.D. = 0.48)
The objectives of this research are 1) to study basic information and the context of early childhood educational institutions for developing early childhood teachers' potential in knowledge management for early childhood children in the digital age. 2) To create and develop the potential of early childhood teachers in knowledge management for early childhood children in the digital age, and 3) To evaluate the satisfaction of early childhood teachers with the development of early childhood teachers' potential in knowledge management for early childhood children in the digital age. This research model is research and development (Research and Development) consisting of 3 steps: Part 1 Study basic information and the context of early childhood educational institutions for developing the potential of early childhood teachers in knowledge management for early childhood in the digital age. The tools are interviews about principles, concepts, and guidelines for developing early childhood teachers' potential in knowledge management for early childhood in the digital age and a questionnaire. regarding practical guidelines to develop the potential of early childhood teachers in knowledge management for early childhood children in the digital age. Step 2: Build and develop the potential of early childhood teachers in knowledge management for early childhood children in the digital age and create a manual for using the learning management model. The tools used to collect data in Phase 1 include: Knowledge management model assessment for early childhood children in the digital age, digital teacher potential assessment form and activity plan according to the knowledge management model for early childhood children in the digital age. A sample group of 40 early childhood teachers attended the training. and try out the format Knowledge management model for early childhood children in the digital age in educational institutions. Step 3: Evaluating the use of learning management models by early childhood teachers by evaluating input factors, processes, and outputs using t-test statistics (t-test) and percentage values.
The research results found that.
1. Results of the study 1) Early childhood teachers should have experience in organizing learning using technology in designing early childhood learning in situations where education has changed in an online format. 2) Teachers should have Using technology to design learning management using a variety of computer programs such as Searching for information on Google, using knowledge activities from YouTube Live worksheets, creating media from Canva and Power Point 3) Components of the format, teacher role, learner role using the integration of 4 digital age skills, namely 1) learning management Active Learning model for teachers and educational institutions 2) Process for designing learning activities in the 21st century 3) Development of integrated early childhood education innovations Using technology and developing innovations in knowledge management for children 4) Learning communities (PLC: Professional Learning Community) and the application of innovations in the digital age measuring and evaluating results by exchanging knowledge together and find good practices in organizing learning.
2. The teaching model developed is The learning management model consists of 1) principles, 2) objectives, 3) content, 4) teaching and learning process, 5) media and learning resources, 6) measurement and evaluation. Results of quality inspection by experts. it was found that the developed teaching model was appropriate. and the consistency was at the highest level. Experiments using the developed learning management model found that early childhood teachers The latter was developed according to has higher potential Higher 85.82 percent at a high level. ( x̄ = 4.29, SD = 0.62)
3. The results of the evaluation of the opinions of early childhood teachers regarding the use of knowledge management models for early childhood children in the digital age were at a high level. ( x̄ = 4.17, S.D. = 0.48)
|
|---|
| คำสำคัญ |
รูปแบบการจัดการความรู้,ยุคดิจิทัล,ศักยภาพครู,knowledge management model,digital age,teacher potential
|
|---|
