| บทคัดย่อ |
เป็นการศึกษาแบบเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional analytical study) มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดความชุกของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสามีและความรุนแรงจากคู่สมรสและทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสามีกับความรุนแรงจากคู่สมรสในผู้หญิงหลังคลอดที่มารับการคลอดในโรงพยาบาลของรัฐ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข เครื่องมือเป็นแบบสอบถาม เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการให้ตอบแบบสอบถามด้วยตนเอง ณ แผนกสูตินารีเวชหลังคลอด ในโรงพยาบาลของรัฐ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดเลยและจังหวัดชัยภูมิ คำนวณขนาดตัวอย่างจากสูตรประมาณค่าสัดส่วน ได้ขนาดตัวอย่าง 1,100 คน ทำการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิและแบบแบ่งกลุ่ม (Stratified and cluster random sampling) ได้โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่และขนาดกลาง รวม 8 แห่ง เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างรวม 1,207 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ของเป้าหมาย ใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Multiple logistic regression
ผลการวิจัย พบว่า ครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างมีอายุอยู่ในช่วง 20-29 ปี อายุเฉลี่ย 28 ปี ประมาณ 2 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างจบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษา กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญมีอาชีพเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชน ร้อยละ 30.9 ประมาณ 2 ใน 5 ของกลุ่มตัวอย่าง มีระดับรายได้ของครัวเรือนต่อเดือนอยู่ในระดับต่ำ ประมาณครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างมีระยะเวลาที่แต่งงานไม่เกิน 5 ปี กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีบุตร 2-3 คน ประมาณ 3 ใน 4 ของกลุ่มตัวอย่างมีความมั่นคงทางอาหาร กลุ่มตัวอย่างมีความชุกของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์ ร้อยละ 5.4
สามีของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 20-29 ปี อายุเฉลี่ย 30.3 ปี ประมาณ 4 ใน 5 ของสามีของกลุ่มตัวอย่างจบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาขึ้นไป สามีของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชน ร้อยละ 47.6 สามีของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีภรรยาเพียงคนเดียว สามีของกลุ่มตัวอย่างมีความชุกของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะภรรยาตั้งครรภ์สูงถึง ร้อยละ 66.8 สามีของกลุ่มตัวอย่างที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีความถี่ของการดื่มเป็นประจำสูงถึงร้อยละ 38.6 และมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักสูงถึง ร้อยละ 18.7 สามีของกลุ่มตัวอย่างที่มีการดื่มอย่างหนัก มีความถี่ของการดื่มอย่างหนักเป็นประจำ ร้อยละ 18.7 และดื่มอย่างหนักนาน ๆ ครั้ง ร้อยละ 81.3 ความชุกของความรุนแรงจากคู่สมรสของกลุ่มตัวอย่างขณะตั้งครรภ์ พบว่า เคยถูกสามีกระทำความรุนแรง ร้อยละ 4.7 โดยมีความชุกของการถูกกระทำความรุนแรงทางวาจามากที่สุด ร้อยละ 4.1 รองลงมาถูกกระทำความรุนแรงทางร่างกาย ร้อยละ 1.1 และถูกกระทำความรุนแรงทางเพศ ร้อยละ 0.9 คุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่าง เมื่อพิจารณาโดยรวม ส่วนใหญ่มีคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับดี ร้อยละ 48.4 รองลงมามีคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับกลาง ๆ ร้อยละ 48.4 ความชุกของภาวะซึมเศร้าของกลุ่มตัวอย่าง เมื่อพิจารณาโดยรวม พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความชุกของภาวะซึมเศร้าในระดับเล็กน้อย ร้อยละ 39.8 รองลงมามีภาวะซึมเศร้าอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 4.5 และมีภาวะซึมเศร้าระดับมากถึงรุนแรง ร้อยละ 1.6
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสามี ดื่มนาน ๆ ครั้งและดื่มอย่างหนัก (AOR = 16.90; 95% CI = 2.77-103.77; p-value =0.002) ดื่มเป็นประจำและดื่มอย่างหนัก (AOR = 12.80; 95% CI= 2.90-56.78; p-value <0.001) มีความสัมพันธ์กับความรุนแรงจากคู่สมรสอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตินอกจากนั้น ตัวแปรอื่น ๆ ได้แก่ พฤติกรรมการห้ามหรือบังคับของสามี (AOR = 9.39; 95% CI = 3.48-25.29; p-value <0.001) ความไม่มั่นคงทางอาหารบางครั้ง (AOR = 5.57; 95%CI = 2.00-15.46; p-value <0.001) ความไม่มั่นคงทางอาหารเป็นประจำ (AOR = 24.6; 95% CI = 5.36-113.07; pvalue<0.001) มีความสัมพันธ์กับความรุนแรงจากคู่สมรสอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ความรุนแรงจากคู่สมรส (AOR = 3.08; 95% CI = 1.24-7.66; p-value 0.011) ความถี่ของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสามีดื่มเป็นประจำและดื่มอย่างหนัก (AOR = 2.15; 95% CI = 1.14-4.04; p-value = 0.017) มีความสัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ดังนั้น หน่วยงานในระดับนโยบายควรออกกฎหมายและมาตรการเพื่อลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสามีขณะที่ภรรยาตั้งครรภ์ หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ควรมีการรณรงค์เพื่อป้องกันหรือลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสามีขณะที่ภรรยาตั้งครรภ์จัดกิจกรรมการคัดกรองและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงในผู้หญิงตั้งครรภ์ การวิจัยครั้งต่อไปควรมีการศึกษาแบบติดตามในระยะยาว เพื่อให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับผลกระทบของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสามีกับความรุนแรงในผู้หญิงระหว่างตั้งครรภ์
This study employed a cross- sectional analytical study. The present study aimed to measure the prevalence of husbands' alcohol use and intimate partner violence, and investigates the association between husbands' alcohol use and intimate partner violence among postpartum women attending delivery in a government hospital, under the Ministry of Public Health. The tool is a questionnaire. Data were collected by answering questionnaires at the obstetrics and gynecology department after childbirth in the public hospital under the Ministry of Public Health, Phetchabun Loei, and Chaiyaphum Province. Calculate the sample size from the proportional estimation formula. The sample size was 1,100 postpartum women. Participants were selected using stratified cluster random sampling in general hospitals, a total of 8 hospitals. Data collection was 1,207 participants; the response rate was 100% of the target. Descriptive statistics were used: frequency, percentage, mean, and standard deviation, and using inferential statistics including multiple logistic regression.
The results show that half of the participants were in the age range of 20- 29 years, with an average age of 28 years. Approximately two- thirds of the participants graduated from secondary school. Most of the participants are private employees. About 2 in 5 of the participants have a low level of monthly household income. About half of the participants had been married for less than five years. Most of the participants had 2- 3 children. About three- quarters of the participants had high food security. The participants had a prevalence of alcohol use during pregnancy was 5.4 %.
Most of the husbands of the participants were in the age range of 20- 29 years, with an average age of 30. 3 years. Approximately 4 in 5 of the husbands of the participants graduated from secondary school and higher. Most of the husbands of the participants were private employees at 47.6%. Most of the husbands of the participants had only one wife. The husband of the participants had a prevalence of alcohol use during pregnancy was 66.8 %. The husbands of the participants who drank alcohol had a frequency of regular drinking were 38. 6 % and heavy episodic drinking was 18. 7 %. The husbands of the participants who had regular heavy episodic drinking were 18.7% and occasional heavy episodic drinking was 81.3%.
The prevalence of intimate partner violence during pregnancy was 4.7%. Most of them highest prevalence of verbal violence was 4.1%, followed by Physical violence was 1.1% and sexual violence was 0.9%. Of the overall quality of life, the participants had a good quality of life of 48. 4% , followed by a moderate quality of life of 48. 4%. The prevalence of depression of participants had a mild depression of 39.8%, followed by moderate depression at 4.5% and very severe depression at 1.6%.
Drinking alcohol occasionally with heavy episodic drinking (AOR = 16.90; 95%CI = 2.77-103.77; p-value = 0.002) and regularly with heavy episodic drinking (AOR = 12.80; 95% CI = 2. 90- 56. 78; p- value <0. 001) of the husbands of the participants had a statistically significant associated with intimate partner violence. In addition, other factors included the husband's controlling behavior (AOR = 9.39; 95%CI = 3.48-25.29; p-value <0.001); occasionally poor food insecurity (AOR = 5.57; 95%CI = 2.00-15.46; pvalue <0.001); regularly poor food insecurity (AOR = 24.6; 95%CI = 5.36-113.07; p-value <0.001) were statistically significant associated with intimate partner violence.
Intimate partner violence (AOR = 3.08; 95% CI = 1.24-7.66), regular with heavy episodic drinking of the husbands of the participants (AOR = 2.15; 95% CI = 1.14-4.04; p- value = 0. 017) was a statistically significant association with depression among postpartum women.
Therefore, the policy level should enact laws and preventive measures to reduce husbands' alcohol use during their wives' pregnancies. Ministry of Public Health and other related organizations should be a campaign to reduce the husband's alcohol use while the wife is pregnant, and screening and surveillance systems for high- risk groups of intimate violence to prevent intimate partner violence among postpartum women. A longitudinal cohort study is needed to fully understand the impact of husbands' alcohol use and intimate partner violence during pregnancy.
|
|---|
| คำสำคัญ |
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮฮล์ของสามี,ความรุนแรงจากคู่สมรส,ภาวะซึมเศร้า,ผู้หญิงหลังคลอด,Husband's drinking of alcohol,intimate partner violence,depression
|
|---|
