| บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาและรวบรวมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว และพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของผู้สูงอายุ อาเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 2) เพื่อพัฒนาระบบสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสาหรับผู้สูงอายุ และ 3) เพื่อประเมินประสิทธิภาพระบบสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสาหรับผู้สูงอายุ และความพึงพอใจของผู้ใช้ต่อระบบ วิธีการดาเนินงานวิจัย จาแนกได้ 6 ส่วน ได้แก่ การสร้างฐานความรู้ออนโทโลยีเพื่อรวบรวมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การพัฒนาระบบสนุบสนุนการตัดสินใจด้วยกระบวนการตัดสินใจลาดับชั้นเชิงวิเคราะห์ การพัฒนาเว็บเชิงความหมายเพื่อการแนะนาข้อมูลการท่องเที่ยวด้วยเทคนิคการกรองแบบอิงเนื้อหา การพัฒนาสื่อความเป็นจริงเสมือนบูรณาการกับออนโทโลยี การประเมินประสิทธิภาพของระบบ และการประเมินความพึงพอใจผู้ใช้ต่อระบบแล้วแปลผลด้วยค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) สถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มี 7 สถานที่ นามาสร้างฐานความรู้ออนโทโลยี แบ่งได้ 4 ชั้น และมีจานวนโหนดความรู้ทั้งหมด 22 โหนด 2) การพัฒนาระบบได้โมเดลเอเอชพีเพื่อการตัดสินใจ แบ่งออกเป็น 3 ระดับชั้น ตามแนวคิด 5ASM จานวน 7 เกณฑ์ การพัฒนาเว็บ เชิงความหมายโดยใช้ออนโทโลยีร่วมกับเทคนิคการกรองแบบอิงเนื้อหา โดยมีการประมวลผล 2 ส่วน คือ การเข้าถึงและสืบค้นเชิงความหมายในออนโทโลยี และการใช้เทคนิคการกรองแบบอิงเนื้อหาตามค่าความความนิยมของผู้ใช้ต่อสถานที่ท่องเที่ยว และการพัฒนาสื่อความเป็นจริงเสมือนที่ถูกจัดระบบการนาเสนอสื่อด้วยการนิยามความรู้เจาะลึกไปตามโครงสร้างออนโทโลยี และ 3) ผลการประเมินระบบ พบว่า โมเดลเอเอชพี สามารถการเลือกเส้นทางการท่องเที่ยวใกล้เคียงกับการเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ ในการจัด 3 ลาดับ และการจัด 5 ลาดับ เว็บเชิงความหมายโดยใช้ออนโทโลยีร่วมกับเทคนิคการกรองแบบอิงเนื้อหา มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า เว็บเชิงความหมายที่ใช้เพียงออนโทโลยี และเว็บจัดการฐานข้อมูล และสื่อความเป็นจริงเสมือนสามารถนาเสนอความรู้ได้ถูกต้องและคลอบคลุมกับความต้องการของผู้ใช้ และผู้ใช้มีความพึงพอใจต่อระบบในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
This research aimed 1) to study and collect data of Wellness tourism destinations and travelling behaviors of elderly in Khao Kho district, Phetchabun province 2) to develop the system for supporting elderly in travelling the health tourism places and 3) to assess the system’s performance and users’ satisfaction to the system. The research methodology was classified in 6 parts; creating ontology knowledge for collecting the Wellness tourism places, developing the decision support system by the analytic hierarchy process (AHP), the semantic web for recommending tourism places by the content-based filtering technique, the visual reality integrated with ontology, and assessing the system performance by accuracy, recall, precision, and F-measure value and users’ satisfaction to the system by average and standard deviation. The result of research found that 1) the Wellness tourism destination in Khao Kho has 7 places, it can be created to be ontology knowledge classified in 4 levels and 22 nodes 2) developing the AHP model classified in 3 levels based on 5ASM concept with 7 criteria, semantic web by using the ontology and the content-based filtering technique has 2 processes are accessing and searching the semantic ontology knowledge and using the content-based filtering technique based on user’ s ratings to each health tourism place, and the visual reality for systematically defining and delving into knowledge according to ontology knowledge structure and 3) the system assessment results found that AHP model can select the tourism routes near to selecting by specialists both in ranking of 3 and 5 series, semantic web which used ontology and content-based filtering technique has higher performance than the semantic web with ontology and the database management system, and the visual reality can correctly and comprehensively present knowledge with the users’ need and users have satisfaction to the system in overview at high level.
|
|---|
| คำสำคัญ |
เทคโนโลยีเสมือนจริง,ออนโทโลยี,การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ,ผู้สูงอายุ,อำเภอเขาค้อ,Visual Reality,Ontology,Wellness tourism,Elderly,Khao Kho District
|
|---|
