| บทคัดย่อ |
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อยที่จะพัฒนาตนเองเพื่อความอยู่รอดในสังคม และนำไปสู่ความมั่นคง เข้มแข็ง และยั่งยืน 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่เป็นปัญหาและส่งเสริมปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อยด้วยวิธีการพึ่งตนเองโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน 3) เพื่อออกแบบกลยุทธ์ในการสร้างเสริมศักยภาพในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยวิธีการพึ่งตนเองโดยใช้ชุมชนเป็นฐานเพื่อความมั่นคง เข้มแข็ง และยั่งยืน 4) เพื่อประเมินความรู้และความสามารถของผู้สูงอายุหลังจากการพัฒนาขีดความสามารถและสร้างเสริมศักยภาพในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยวิธีการพึ่งตนเองโดยใช้ชุมชนเป็นฐานเพื่อความมั่นคง เข้มแข็ง และยั่งยืน
วิธีการดำเนินการวิจัย ตามระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research & Development: R&D) มี 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การวิจัยในระยะนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขีดความสามารถของผู้สูงอายุบ้าน เข็กน้อยในการดำรงชีวิตด้วยวิธีการพึ่งตนเองโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อยที่จะพัฒนาตนเองเพื่อความอยู่รอดในสังคม และนำไปสู่ความมั่นคง เข้มแข็ง และยั่งยืน เพื่อศึกษาปัจจัยที่เป็นปัญหาและส่งเสริมปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อยด้วยวิธีการพึ่งตนเองโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน มี 3 กิจกรรมคือ 1) ผู้วิจัยดำเนินการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาขีดความสามารถ และสร้างเสริมศักยภาพในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยวิธีการพึ่งตนเองโดยใช้ชุมชนเป็นฐานเพื่อความมั่นคง เข้มแข็ง และยั่งยืน 2) สัมภาษณ์ผู้สูงอายุโดยการลงชุมชนเพื่อให้ได้ความรู้และความต้องการของผู้สูงอายุในชุมชน เพื่อนำมาออกแบบกลยุทธ์ในการพัฒนาศักยภาพในการดำรงชีวิตด้วยการพึ่งตนเอง 3) เก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์และลงชุมชน โดยการใช้การวิเคราะห์และสังเคราะห์เนื้อหา ระยะที่ 2 การพัฒนา (Development) การวิจัยในระยะนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบกลยุทธ์ในการสร้างเสริมศักยภาพในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุบ้าน เข็กน้อยในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยวิธีการพึ่งตนเองโดยใช้ชุมชนเป็นฐานเพื่อความมั่นคง เข้มแข็ง และยั่งยืน มี 3 กิจกรรมคือ 1) ผู้วิจัยทำการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากระยะที่ 1 2) ตรวจสอบความถูกต้องและความเที่ยงตรงโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผล ระยะที่ 3 การวิจัย กิจกรรม คือ การวิจัยในระยะนี้มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อยและการสร้างเสริมศักยภาพของชุมชนให้เน้นการพึ่งตนเองให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อออกแบบกลยุทธ์ในการสร้างเสริมศักยภาพในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยวิธีการพึ่งตนเองโดยใช้ชุมชนเป็นฐานเพื่อความมั่นคง เข้มแข็ง และยั่งยืน มี 2 กิจกรรม คือ 1) ให้ความรู้กับผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ 2) รวบรวมแนวคิดที่ได้จากการลงชุมชน มาจัดทำเป็นแนวทางพัฒนาขีดความสามารถและสร้างเสริมศักยภาพในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยวิธีการพึ่งตนเองโดยใช้ชุมชนเป็นฐานเพื่อความมั่นคง เข้มแข็ง และยั่งยืน ระยะที่ 4 การวิจัย (Research) การวิจัยในระยะนี้มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อประเมินความรู้และความสามารถของผู้สูงอายุหลังจากการพัฒนาขีดความสามารถและสร้างเสริมศักยภาพในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยวิธีการพึ่งตนเองโดยใช้ชุมชนเป็นฐานเพื่อความมั่นคง เข้มแข็ง และยั่งยืน
ผลลัพธ์ของงานวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 58 เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 42 อยู่ในช่วงอายุ 75 – 79 ปี ร้อยละ 26 และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 70 อยู่ในสถานภาพคู่/สมรส กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 62 ไม่มีโรคประจำตัว จบการศึกษาระดับต่ำกว่าประถมศึกษา คิดเป็นร้อยละ 90 และส่วนใหญ่ไม่ได้ประกอบอาชีพ คิดเป็นร้อยละ 74 เคยประกอบอาชีพเกษตรกร คิดเป็นร้อยละ 90 มีรายได้ของครอบครัวต่อเดือนน้อยกว่า 1,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 90 แหล่งที่มาจากรายได้ส่วนใหญ่เป็นเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล/เอกชน คิดเป็นร้อยละ 80 ส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่กับบุตรหลาน คิดเป็นร้อยละ 58 โดยมีจำนวนสมาชิกในครอบครัวจำนวน 5 คนขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 68 จากผลการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล พบว่า ส่วนใหญ่ผู้สูงอายุมีปัญหาด้านสุขภาพ ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากบุตรหลานและด้านสุขภาพอนามัยขั้นพื้นฐาน ด้านการรักษาโรคต่าง ๆ ที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคเบาหวาน เป็นต้น ต้องการให้มีแพทย์ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ และรถส่งต่อไปโรงพยาบาล ควรมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย อยากให้มีผู้มาดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อดูแลร่างกายให้แข็งแรง ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ การมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย ต้องพึ่งพาบุตรหลานญาติพี่น้อง ไม่มีรายได้ที่แน่นอน ยังมีหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบ และยังคงได้รับเงินช่วยเหลือจากภาครัฐแต่ก็ยังไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรจึงมีความต้องการให้ภาครัฐประกันผลผลิตทางการเกษตร เช่น ราคาทางเกษตร เป็นต้น ไม่มีงานอดิเรกทำเพื่อสร้างรายได้ ผู้สูงอายุต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดจากบุตรหลาน อยากให้ลูกหลานทุกคนรักกัน เป็นคนดีของสังคม ต้องการการยอมรับและเอาใจใส่จากครอบครัว เช่น การพาไปพบแพทย์ในขณะที่ยังไม่ป่วยหนัก การออกกำลังกาย และไม่ค่อยมีกิจกรรมในครอบครัวที่ทำร่วมกันบ่อยนัก บางครั้งมีความเครียดท้อแท้ในการใช้ชีวิต สื่อสารกับสมาชิกในครอบครัวไม่ค่อยรู้เรื่อง ปัญหาด้านจิตใจส่วนใหญ่สืบเนื่องมาจากด้านร่างกายไม่แข็งแรงที่ป่วยเป็นโรค และด้านเศรษฐกิจไม่มีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอ ทางด้านสังคม ต้องการพบปะพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัว บุตรหลานเพื่อคลายความเหงา และให้ดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องการไปเยี่ยมญาติหรือเพื่อนที่อยู่ห่างไกลแต่ไม่ได้รับการดูแลในการพาไปโรงพยาบาลหรือสนับสนุนค่าใช้จ่าย ไม่มีกิจกรรมทางสังคมการรวมกลุ่มเพื่อคลายความเหงา การสื่อสารกับบุตรหลาน คู่สมรสมีการสื่อสารน้อยลง และมักเข้าใจไม่ตรงกันเนื่องจากบุตรหลานมีหน้าที่การงานและทำงานที่ต่างจังหวัด มีการใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อสื่อสารในสังคมบ้างแต่ไม่มากนักเนื่องจากไม่มีโทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์ส่วนตัว และสายตาเริ่มไม่ดีแล้วจึงไม่นิยมที่จะใช้โทรศัพท์มือถือ โดยได้กลยุทธ์ในการพัฒนาขีดความสามารถและสร้างเสริมศักยภาพในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ ดังต่อไปนี้ 1) พัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุในด้านสุขภาพกายอารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ 2) พัฒนาสัมพันธภาพของผู้สูงอายุให้สามารถอยู่ในครอบครัวและชุมชนได้ 3) ส่งเสริมศักยภาพของผู้สูงอายุในการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น 4. พัฒนาอาชีพให้ผู้สูงอายุเพื่อให้มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยสามารถนำไปจัดทำเป็นโครงการสร้างเสริมศักยภาพในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ ได้ดังนี้ 1) โครงการอบรมให้ความรู้ด้านอาหารและโภชนาการ 2) โครงการฝึกปฏิบัติธรรมธรรมะในผู้สูงอายุทุกวันพระ 3) โครงการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ผู้สูงอายุ 4) โครงการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้สูงอายุ 5) โครงการพัฒนาส่งเสริมสุขภาพจิตผู้สูงอายุ (การจัดการความเครียดในผู้สูงอายุ) 6) โครงการส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุ 7) โครงการจัดกิจกรรมในงานบุญประจําปี 8) โครงการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเป็นวิทยากรในท้องถิ่น
The objectives of this research were 1) to study the behavior and needs of the elderly at home. Little to develop oneself to survive in society and lead to stability, strength and sustainability 2) To study the problematic factors and to promote the factors affecting the livelihoods of the elderly in Ban Khek Noi by means of self-sufficiency using community-based; 3) To design strategies in Strengthening the potential of living for the elderly in Ban Khek Noi Phetchabun Province with a self-reliant approach using the community as a base for stability, strength, and sustainability 4) To assess the knowledge and abilities of the elderly after capacity development and to enhance the living potential of the elderly in Ban Khek Noi Phetchabun Province with a self-reliant approach using the community as a base for stability, strength and sustainability
Methods of conducting research according to research and development methodology (Research & Development: R&D) 4 phases: Phase 1 : The research in this phase aims to study the abilities of the elderly at home. Little is living with a self-reliant approach using the community as a base. To study the behavior and needs of the elderly in Ban Khek Noi for self-development for survival in society and lead to stability, strength and sustainability. To study the problematic factors and promote factors affecting the lifestyle of the elderly in Ban Khek Noi by means of self-reliance using community as a base. There are 3 activities: 1) Researchers Conducting studies of documents and research related to competence development and build Life potential of the elderly at Ban Khek Noi Phetchabun Province with a method of self-reliance using the community as a base for stability, strength and sustainability 2)To design a strategy to develop the potential of living with self-reliance. 3)Collect information from interviews and visit the community. By using content analysis and synthesis, Phase 2 Development The research in this phase aims to design strategies for enhancing the living potential of the elderly at home. Khek Noi in the life of the elderly at Ban Khek Noi Phetchabun Province with a self-reliant approach using the community as a base for stability, strength and sustainability. There are 3 activities : 1) The researcher analyzes and synthesizes the data obtained from Phase 1 2)Verification for accuracy and precision by qualified persons. and use the data collected to analyze the data and summarize the results. Phase 3 Research Activities The objectives of this research phase are to develop the capability of the elderly in Ban Khek Noi and to strengthen the community's potential to focus on self-reliance. to be able to live without relying on government agencies and the private sector To design strategies to enhance the living potential of the elderly in Ban Khek Noi in the living in Phetchabun Province with the method of self-reliance using the community as a base for stability, strength and sustainability. There are 2 activities. 1) Collect ideas from the community to be prepared as a guideline to develop capacity and to enhance the living potential of the elderly in Ban Khek Noi Phetchabun Province 2) Using a community-based self-reliance approach for stability, strength and sustainability, Phase 4 Research (Research: R3) The objective of this phase is to assess the knowledge and abilities of the elderly after competence development. and enhancing the living potential of the elderly at Ban Khek Noi Phetchabun Province with a self-reliant approach using the community as a base for stability, strength and sustainability.
Results From the study found that mostly male 58% were female, 42% were in the age range of 75 – 79 years, 26% and 70% were mostly married/married. 62 percent of the sample group had no underlying disease. Graduated below elementary school accounted for 90 percent and most of them were unemployed. accounted for 74 percent used to work as a farmer 90 percent have a family income less than 1,000 baht per month or 90 percent. Most of the income sources are Government/private grants accounted for 80 percent, most of them live with their children. accounted for 58 percent with a number of family members of 5 or more or 68% based on the results of the analysis and synthesis of data from the community Found that most of the elderly had health problems. Requires child care and basic health care Treatment of various diseases that are common in the elderly, such as high blood pressure, kidney disease, diabetes, etc., require a doctor in a health promotion hospital. and transport to the hospital should have tools modern medical I want people to take care of them continuously to take care of their bodies to be healthy, economically. including having insufficient income for spending dependent on children, relatives no fixed income There are still liabilities to be liable. and still receive government subsidies, but still not enough to cover family expenses Most of them work as farmers, so they want the government to insure their agricultural products, such as agricultural prices. They have no hobbies to make money. Elderly people need close supervision from their children. I want all my children to love each other. be a good person of society Requires family acceptance and attention, such as taking him to the doctor while he is not seriously ill. exercise And rarely do family activities together often. Sometimes there is stress and discouragement in life. I don't know much about communicating with family members. Most of the psychological problems are due to the physical infirmity of being sick. And the economy does not have enough money to spend. Social, want to meet and talk with family members. children to relieve loneliness and closely monitor Wanting to visit distant relatives or friends but not receiving hospital care or support No social activities, group gatherings to relieve loneliness communication with children Spouses have less communication. And often misunderstandings because children have jobs and work in other provinces. There are some use of technology media to communicate in society, but not much due to the lack of a phone. or personal computer And my eyesight is getting bad, so I don't like to use mobile phones. with strategies to develop capacity and enhance the living potential of the elderly in Ban Khek Noi Phetchabun Province As follows : 1) Improve the health of the elderly in terms of physical, emotional, social and spiritual health; 2) Develop the relationship of the elderly to be able to live in families and communities; 3) Promote the capacity of the elderly to participate in conservation. Local culture 4) Develop careers for the elderly to participate in economic and social development. This can be used to create a project to enhance the living potential of the elderly as follows: 1) Food and nutrition training program 2) Dharma practice project for the elderly every Buddhist holy day 3) Mobile health check project for the elderly 4) The Elderly First Aid Training Project 5) The Elderly Mental Health Development Project (Stress management in the elderly) 6) Elderly wellness promotion project 7) Annual merit-making activities project 8. The project to encourage the elderly to be local speakers.
|
|---|
| คำสำคัญ |
การพัฒนาขีดความสามารถ,การดำรงชีวิต,ชุมชนเป็นฐาน,ผู้สูงอายุบ้านเข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์,Capacity development,Livelihood,Community-based,Elderly people in Ban Khek Noi Phetchabun Province
|
|---|
