รายละเอียดข้อมูลโครงการวิจัย
รหัสโครงการวิจัย
ปีงบประมาณ
2564
ประเภทโครงการ
โครงการวิจัยเดี่ยว
ประเภททุน
ทุนภายในคณะ
ชื่อโครงการวิจัย
การศึกษาวัฒนธรรมการกินน้ำพริกของตำบลนางั่ว อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
ชื่อโครงการวิจัย (EN)
นักวิจัย
คณะ/หน่วยงาน
คณะเทคโนโลยีการเกษตรและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยผสานวิธีทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาวัฒนธรรมการกินน้ำพริกของตำบลนางั่ว อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของน้ำพริก ของตำบลนางั่ว อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ และเพื่อศึกษารูปแบบของน้ำพริกในตำบลนางั่ว อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
พบว่า พฤติกรรมการกินน้ำพริกของตำบลนางั่ว อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 76.75 กินน้ำพริกทุกวัน กินน้ำพริกในมื้อเย็น กับมื้อเช้า คิดเป็นร้อยละ 48.5 ซึ่งส่วนใหญ่กินน้ำพริกกับข้าวเหนียวเป็นหลัก คิดเป็นร้อยละ 66.0 และทำกินเองที่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 43.25 กินคู่กับผักต้ม/ผักลวก/ผักนึ่ง 92.5 ของทอดต่างๆ (ไก่ทอด หมูทอด ปลาทอด ไข่ทอด ผักทอด ฯลฯ) คิดเป็นร้อยละ 73.5 กินน้ำพริกเพราะรสชาติดี อร่อย คิดเป็นร้อยละ 33.75 ชอบน้ำพริกที่มีรสชาติเปรี้ยว เค็ม คิดเป็นร้อยละ 69.0 กินน้ำพริกปลาร้าบ่อยที่สุด คิดเป็นร้อยละ 84.25 น้ำพริกมีลักษณะเปียก ชื้น มีน้ำขลุกขลิก คิดเป็นร้อยละ 69.5 วัตถุดิบหลักหรือส่วนผสมหลักที่ใส่ในน้ำพริกคือผัก คิดเป็นร้อยละ 44.75 พริกที่ใช้ในน้ำพริกเป็นพริกแห้ง คิดเป็นร้อยละ 42.25 วิธีการปรุงน้ำพริกจะนำส่วนผสมไปย่างและนำส่วนผสมมาโขลกแล้วนำมาผสมกับเครื่องปรุง คิดเป็นร้อยละ 43.0 เครื่องปรุงที่ให้รสชาติเค็มในน้ำพริก คือ ปลาร้า/น้ำปลาร้า ส่วนใหญ่เครื่องปรุงที่ให้รสชาติหวานในน้ำพริกได้แก่ น้ำตาลทรายขาว/แดง คิดเป็นร้อยละ 41.0 เครื่องปรุงที่ให้รสชาติเปรี้ยวในน้ำพริกมะนาว คิดเป็นร้อยละ 39.75 เนื้อสัตว์ที่นำมาผสมในน้ำพริก ได้แก่ ปลาทู ปลาย่าง ปลาดุกย่าง
น้ำพริกที่ชาวบ้านตำบลนางั่ว ทำกินในชุมชนนั้นเป็นสูตรที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมารุ่นสู่รุ่นภายในครอบครัวของตนเอง แต่ไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ริเริ่มทำ และน้ำพริกบ้างชนิดก็มีการนำมาดัดแปลงบ้างตามยุคสมัยหรือวัตถุดิบที่มีในชุมชน หรือสิ่งที่หาได้ง่ายในชุมชนของตนเอง จนกลายเป็นสูตรที่ทำกันเป็นที่แพร่หลายในชุมชน เช่น น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกแมงดา ซุปบักเขือ ซุปเห็ด แจ่วปลาร้า แจ่วบักเขือเครือ เป็นต้น
รูปแบบของน้ำพริก จำแนกได้ 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ แจ่ว ซุป น้ำพริก วัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นพืชผักสวนครัว ได้แก่ พริก หอม กระเทียม เห็ด มะเขือชนิดต่างๆ มะนาว ส่วนผสมบางอย่างก็เป็นการถนอมอาหารแล้วเก็บไว้กินเองภายในครอบครัว เช่น มีปลามากก็นำปลามาหมักทำเป็นปลาร้า หรือนำไปย่างทำเป็นปลาย่าง หรือบางอย่างก็ได้มาจากสวน ท้องไร่ท้องนา ได้แก่ ไข่มดแดง แมงดา มะม่วงดิบ มะนาว มะขามอ่อน ยอดมะขาม มะกอก เครื่องเคียงที่กินคู่กับน้ำพริก แบ่ง 2 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มผักพื้นบ้าน ผักสวนครัว ได้แก่ กระถิน หน่อไม้ หน่อข่าอ่อน ยอดกระถิน เม็ดกระถิน ผักบุ้งนา มะเขือชนิดต่างๆ ผักหวาน ผักอีงอ (ผักกรูด) กระเจี๊ยบ ถั่วพู ถั่วฟักยาว ลิ้นฟ้า (ฝักเพกา) ดอกแค ยอดแค กวางตุ้ง (2) กลุ่มเนื้อสัตว์ ได้แก่ ปลา หมู ไก่ เนื้อวัว ปูนา เป็นต้น ซึ่งนำเนื้อสัตว์เหล่านี้ไปปรุงสำเร็จผ่านกระบวนต้ม นึ่ง ทอด หรือไม่ก็ปิ้งย่าง เช่น ปลาดุกย่าง หมูทอด ไก่ย่าง ไก่ทอด เนื้อวัวแดดเดียวทอด ปูนานึ่ง ปลาทูทอด ปลานึ่ง เป็นต้น ซึ่งชาวบ้านตำบลนางั่ว กินน้ำพริกในช่วงมื้อเช้า กับ มื้อเย็นเป็นเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นมื้ออาหารที่สมาชิกอยู่ครบกันทั้งบ้าน
คำสำคัญ
วัฒนธรรมการกิน,น้ำพริก
สถานะโครงการ
ดำเนินการเสร็จสิ้น
บทคัดย่อ
--
เล่มรายงาน
ดาวน์โหลด เปิด : 32 ครั้ง:
เปิดดู
236 ครั้ง
หมายเหตุ

เอกสารเพิ่มเติม
แสดง 1 ถึง 1 จาก 1 ผลลัพธ์
#ไฟล์เอกสารรายละเอียด
1 ประกาศทุนฯ 64  (โหลด : 53 ครั้ง)