| บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการจำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงวัย2) เพื่อสร้างหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง การดูแลผู้สูงอายุที่สอดคล้องบริบทและวิถีชีวิต 3)เพื่อทดลองใช้หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง การดูแลผู้สูงอายุที่สอดคล้องบริบทและวิถีชีวิต และประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาความสามารถทางสังคมและการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมอย่างมีคุณภาพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3
การดำเนินการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development ) มีขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการจำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง การดูแลผู้สูงอายุที่สอดคล้องบริบทและวิถีชีวิต เพื่อพัฒนาความสามารถทางสังคมและการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมอย่างมีคุณภาพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ประชากรที่ใช้ในการตอบแบบสอบถาม ได้แก่ ผู้สูงอายุ จำนวน 4,187 คน กลุ่มตัวอย่าง 351 คน และกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการสัมภาษณ์ได้แก่ผู้สูงอายุ จำนวน 30 คนใน ตำบลสะเดียง อำเภอ เมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ขั้นตอนที่ 2 การสร้างหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง การดูแลผู้สูงอายุที่สอดคล้องบริบทและวิถีชีวิตเพื่อพัฒนาความสามารถทางสังคมและการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมอย่างมีคุณภาพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่านประเมินความเหมาะสมและสอดคล้องของหลักสูตร ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง การดูแลผู้สูงอายุที่สอดคล้องบริบทและวิถีชีวิต กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1-3 โรงเรียนบ้านสะเดียง จำนวน 30 คน ที่ศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 และประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหลักสูตร
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ขั้นตอนที่ 1 ได้แก่ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงค่าความถี่(Frequency)และหาค่าร้อยละ(Percentage)การหาค่าเฉลี่ย (X̄) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)และแบบสัมภาษณ์ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลสรุปเนื้อหา ขั้นตอนที่ 2 แบบประเมินความเหมาะสมและสอดคล้องของหลักสูตร วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย (X̄) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ขั้นตอนที่ 3 แบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย (X̄) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และหาค่าสถิติทดสอบทีและแบบประเมินความสามารถทางสังคมและการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละและเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย (X̄) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ปัญหาของผู้สูงอายุทั้ง4 มิติ ได้แก่ ด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และ เศรษฐกิจ ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( X̄ = 3.76, S.D = 0.81 ) มีปัญหาด้านเศรษฐกิจมากที่สุด (X̄ = 4.42, S.D = 0.82 ) รองลงมาได้แก่ ปัญหาด้านร่างกาย (X̄ = 3.79, S.D =. 0.83 ) ปัญหาด้านจิตใจ (X̄ = 3.56, S.D =.0.84 ) และปัญหาด้านสังคม ( X̄ = 3.30, S.D = 0.78 ) ส่วนด้านความต้องการของผู้สูงอายุเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในภาพรวม 4 ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านสังคมและ ด้านเศรษฐกิจของผู้สูงอายุในภาพรวมอยู่ในระดับมาก( X̄ = 4.25, S.D = 0.68 ) โดยมากที่สุดคือ ด้านเศรษฐกิจ (X̄ = 3.40, S.D = 0.75 )รองลงมาคือด้านจิตใจ (X̄ = 4.38, S.D = 0.65) ด้านสังคม (X̄ =4.28, S.D = 0.79) และด้านร่างกาย (X̄ = 3.98, S.D =.0.66 ) ข้อมูลจาการสัมภาษณ์ พบว่าผู้สูงอายุมีปัญหาด้านสุขภาพ ต้องการการดูแลด้านสุขภาพอนามัยขั้นพื้นฐาน ด้านการรักษาโรคต่างๆ ที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ เช่น ความดันโลหิตสูง ความอ้วน เบาหวาน ไขมันสูง การรักษาโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีอยู่ในท้องถิ่น และการปฐมพยาบาลเบื้อต้นเมื่อเจ็บป่วย ด้านเศรษฐกิจ พบว่าไม่มีรายได้เพียงพอต่อการใช้จ่าย ต้องพึ่งพาบุตรหลานญาติพี่น้อง ไม่มีรายได้ที่แน่นอน ยังมีหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบ ไม่มีเงินออมเพื่อใช้ชีวิตเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพที่ดี ด้านจิตใจผู้สูงอายุต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องการการยอมรับและเอาใจใส่จากครอบครัว ด้านสังคม ต้องการพบปะพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัว บุตรหลานเพื่อคลายความเหงา และให้ดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องการไปเยี่ยมญาติหรือเพื่อนที่อยู่ห่างไกลแต่ไม่ได้รับการดูแลในการพาไปหรือสนับสนุนค่าใช้จ่าย ผู้สูงอายุ เห็นควรให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาใกล้บ้านจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนเพื่อให้สามารถมีความรู้ ความเข้าใจด้านการดูแลผู้สูงอายุ และดูแลผู้สูงอายุในบ้านได้ เนื้อหาที่ควรจัดสอนในหลักสูตรได้แก่ ความจำเป็นในการดูแลผู้สูงอายุ การจัดสภาพแวดล้อมให้ผู้สูงอายุ การดูแลสุขภาพอนามัย การปฐมพยาบาล การนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการดูแลผู้สูงอายุ โรคในผู้สูงอายุและการดูแลเบื้องต้น การปฐมพยาบาล กายบริหารสำหรับผู้สูงอายุ การสื่อสารและการรับฟังปัญหาและแก้ไขปัญหาให้ผู้สูงอายุ เห็นควรให้มีการทำงานร่วมกัน ระหว่าง นักเรียน โรงเรียน และครอบครัว สังคม
2. ผลการสร้างและตรวจสอบคุณภาพหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง การดูแลผู้สูงอายุที่สอดคล้องบริบทและวิถีชีวิต มีองค์ประกอบ 9 องค์ประกอบ ได้แก่ แนวคิด หลักการ จุดหมาย ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา แนวทางการจัดการเรียนรู้ สื่อและแหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และตรวจสอบคุณภาพของหลักสูตร โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน พบว่าหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมและมีความสอดคล้องมีค่าความสอดคล้องระหว่าง 0.80-1.00
3. ผลการทดลองใช้หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง การดูแลผู้สูงอายุที่สอดคล้องบริบทและวิถีชีวิต พบว่านักเรียนความรู้ความเข้าใจ เรื่อง การดูแลผู้สูงอายุที่สอดคล้องบริบท หลังการใช้หลักสูตรสูงกว่าก่อนการใช้หลักสูตรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนผลการประเมินความสามารถทางสังคมและการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 หลังการใช้หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่หลักสูตรกำหนด ร้อยละ 90.00 คนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ10 และ มีผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมในด้านปัจจัย ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต อยู่ในระดับมาก ( X̄ = 4.18, S.D =0.68 )
The purpose of this paper was to 1) investigate the issues and requirements for enhancing the elderly's quality of life, 2) develop the supplementary course "Context and Lifestyle Based Elderly Care," 3) try out the supplementary course "Context and Lifestyle Based Elderly Care" and assess the satisfaction of Grade 1- 3 secondary school students with the supplementary course in order to promote social competence and quality coexistence.
This type of research and development was carried out in the following way: Step 1: Research the issues and requirements for enhancing the elderly's quality of life in order to utilize them as a guideline for the supplementary course development "Context and Lifestyle Based Elderly Care," which aims to increase social competence and quality cohabitation for students in grades 1–3 to study. The population for the questionnaire comprised of 4,187 elderly people who were randomized into 351 samples. In addition, another 30 elderly people from Sadiang Subdistrict, Mueang District, Phetchabun Province were interviewed. Step 2: Develop the supplementary course "Context and Lifestyle Based Elderly Care” to increase social competence and quality cohabitation for students in grades 1–3 to study assessed by 5 experts to check the validity and consistency of the course. Step 3: Try out the supplementary course "Context and Lifestyle Based Elderly Care." The population was 30 students in grades 1-3 at Ban Sadiang School in the second semester of the academic year 2021.
The research instruments used to collect the data were classified as follows: Step 1 applied a questionnaire and analyzed its data using frequency, percentage, mean (X̄), and standard deviation (S.D.), as well as an interview form and analyzed its data using content summary analysis. Step 2 used an assessment form of the Item-Objective Congruence Index (IOC) and analyzed its data using mean
(X̄) and standard deviation (S.D.). Step 3 used a cognitive test and analyzed its data using mean (X̄) and standard deviation (S.D.), testing t-test statistics; also, it applied an evaluation form of social competence and coexistence and analyzed its data using percentage and specified criterion, and used a satisfaction questionnaire to survey the students’ satisfaction with the supplementary course and analyzed its data using mean (X̄) and standard deviation (S.D.).
The research findings showed:
1. The overall level of the elderly’s issues in 4 dimensions: physical health, mental health, society, and economy, was high ( X̄ = 3.76, S.D = 0.81). By mean, economy issue leveled highest (X̄ = 4.42, S.D = 0.82), and the lower mean sequenced physical health (X̄ = 3.79, S.D =. 0.83 ), mental health ( X̄ = 3.56, S.D =.0.84 ) , respectively. Meanwhile, the overall level of the elderly’s requirements in 4 dimensions: physical health, mental health, society, and economy, was high ( X̄ = 4.25, S.D = 0.68). By mean, mental health leveled highest X̄ = 4.38, S.D = 0.65), and the lower mean sequenced society issue (X̄ =4.28, S.D = 0.79), physical health (X̄ = 3.98, S.D =.0.66 ), and economy issue (X̄ = 3.40, S.D = 0.75), respectively. The data from the interview showed that the elderly had health problems and needed basic health care. Most of the diseases that required treatment were high blood pressure, obesity, diabetes, and high cholesterol. The elderly applied local folk wisdom and first aid for treatments when they were sick. Economy issue: they had no income, were dependent on their children and relatives, lived on an unstable income, were in debt, and had no savings to live on to maintain good health. Mental health: the elderly needed close supervision and family acceptance and care. Society issue: the elderly needed to meet with family members and children to relieve loneliness and needed to visit distant relatives or friends but were not receiving escort care or cost support. The elderly agreed to have a school near the community arrange a course to educate students to have knowledge and understanding of elderly care at home. In addition, the course contents should involve the significance of elderly care, environmental management for the elderly, health care, first aid, local wisdom for the elderly's health treatment, diseases in the elderly and basic treatments, exercise for the elderly, communication and listening to problems and solving problems for the elderly. All of these should be collaborations between students, schools, families, and society.
2. The development of the supplementary course "Context and Lifestyle Based Elderly Care" established 9 significant components: concept, principles, aims, learning outcomes, course description, course structure, guidelines of learning management, learning media and sources, evaluation and assessment. The quality of the supplementary course was evaluated by 5 experts and it showed the developed curriculum is appropriate and consistent with a consistency value between 0.80-1.00.
3. The tryout of the supplementary course "Context and Lifestyle Based Elderly Care" showed that the students had the knowledge and realized on the course of "Context and Lifestyle Based Elderly Care", indicating from their averaged posttest scores higher than the averaged pretest scores at significantly statistical level of .05. Meanwhile, the results of the Grade 1-3 secondary school students’ social competence and coexistence after using the supplementary course met the specified criterion at 90%, with only 10% failing. Finally, the overall level of the students’ satisfaction with the supplementary course on three aspects: factors, process, and outcomes, was high ( X̄ = 4.18, S.D =0.68).
|
|---|
