| บทคัดย่อ |
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัญหาการใช้ภาษาอังกฤษ และความต้องการจำเป็นในการใช้ภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ประกอบการโฮมสเตย์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ และ 2) เพื่อพัฒนานวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ประกอบการโฮมสเตย์เพื่อหนุนเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนในจังหวัดเพชรบูรณ์ การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ที่ใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โดยการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และการสัมภาษณ์กลุ่ม โดยสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในชุมชน จำนวน 15 คน ได้แก่ ผู้ประกอบการโฮมเสตย์ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีปัญหาและข้อจำกัดในการใช้ภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ได้มีโอกาสในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และไม่รู้คำศัพท์ เรียบเรียงประโยคไม่ได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการต้องการพัฒนาการฟัง และทักษะการพูดเพื่อการสื่อสาร รวมทั้งสื่อการเรียนรู้ที่เป็นแบบสองภาษา (อังกฤษ-ไทย) ที่มีคำป่าน และคำแปล แบบง่ายๆ และพร้อมใช้งาน และสามารถฝึกด้วยตนเองได้ ส่วนเนื้อหาที่ต้องการที่ต้องการพัฒนาเป็นนวัตกรรมหรือสื่อการเรียนรู้ ได้แก่ การทักทาย การอธิบายห้องพัก การบอกราคาห้องพัก การอธิบายอุปกรณ์ในห้องพัก การบอกโปรแกรมท่องเที่ยวในชุมชน การอธิบายกิจกรรมต่างๆ ที่ทางโฮมสเตย์จัดให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น การทำน้ำสลัด การคั่วกาแฟ การเผาข้าวหลาม การอธิบายเมนูอาหารและส่วนประกอบของอาหารพื้นบ้านที่จัดให้แก่นักท่องเที่ยว และสำนวนอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการท่องเที่ยวแบบโฮมเสตย์
The objectives of this research were 1) to study problems and needs of English function for homestay entrepreneurs in Phetchabun Province and 2) to develop English learning innovation for homestay entrepreneurs in order to support community-based tourism in Phetchabun Province. This research is a qualitative research that employ participatory action research for research methodology. The researcher collected data by using semi-structured interview and focus group interview 15 stakeholders in Ban Saleang Haeng 3, Khao Kho district, Phetchabun province.
The findings reveal that most entrepreneurs have problems and limitation of using English seriously since they do not have an opportunity to communicate with international tourists. Most of them lack of knowledge about vocabulary, sentence structure. In addition, most entrepreneurs need to improve their listening and speaking skill for communication including bilingual learning material (Thai-English) with meaning and easy to use and can practice as self-study. The contents in the learning material are as follows: greeting, explaining homestay room types, room rate, homestay facility and amenity, homestay program tour, and homestay activities provided to the tourists, for example, making salad dressing, coffee roasting, explain menus, and other expression about homestay tourism.
|
|---|
| คำสำคัญ |
นวัตกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ,โฮมสเตย์,การท่องเที่ยวโดยชุมชน,English learning innovation,Homestay,Community-Based Tourism
|
|---|
