| บทคัดย่อ |
งานวิจัยฉบับนี้ ศึกษาเกี่ยวกับการศึกษาปัจจัยที่เหมาะสมในการบ่มคอนกรีตโครงสร้างเพื่อเพิ่มกำลังอัดแบบเร่งด่วน โดยการใช้น้ำพลังงานสนามแม่เหล็ก โดยทำการทดสอบลูกปูนทรงลูกบาศก์ ขนาด 15ซม x 15ซม x 15ซม บ่มน้ำพลังงานสนามแม่เหล็กที่มีความเข้มของสนามแม่เหล็กที่ต่างกัน 3 ค่า อันได้แก่ แม่เหล็กเฟอร์ไรท์ มีความเข้มสนามแม่เหล็กประมาณ 800-1,000 G, แม่เหล็กนีโอไดเมียม มีความเข้มสนามแม่เหล็กอยู่ประมาณ 1,500-2,900 G และแม่เหล็กซามาเรียม มีความเข้มสนามแม่เหล็กอยู่ประมาณ 1,900-3,900 G ทำการบ่มและเก็บผลการทดสอบที่ 7วัน, 14วัน และ28วัน โดยมีลูกปูนทดสอบที่บ่มด้วยน้ำปกติเป็นตัวแปรควบคุม และทำการทดสอบด้วยเครื่องทดสอบรับแรงอัด (Compression Machine)
ในการวิจัยนี้ได้ออกแบบการทดสอบทั้งหมด 4 ตัวแปรประกอบด้วย การบ่มด้วยน้ำปกติ (ตัวแปรควบคุม) ทดสอบจำนวน 3 ตัวอย่าง การบ่มด้วยน้ำพลังงานสนามแม่เหล็กเฟอร์ไรท์ ทดสอบจำนวน 3 ตัวอย่าง การบ่มด้วยน้ำพลังงานสนามแม่เหล็กนีโอไดเมียมทดสอบจำนวน 3 ตัวอย่าง และการบ่มด้วยน้ำพลังงานสนามแม่เหล็กซามาเรียมทดสอบจำนวน 3 ตัวอย่าง ทำการบ่มที่ 7 วัน, 14 วัน และ 28 วัน ตามลำดับ โดยจากผลจากทดสอบพบว่า ที่ 7 วัน ค่ากำลังอัดสูงสุดได้แก่การบ่มด้วยการบ่มด้วยน้ำพลังงานสนามแม่เหล็กซามาเรียม มีค่าเฉลี่ยกำลังรับแรงอัดเท่ากับ 119.17 kN/cm2 ที่ 14 วัน ค่ากำลังอัดสูงสุดได้แก่การบ่มด้วยการบ่มด้วยน้ำพลังงานสนามแม่เหล็กซามาเรียม มีค่าเฉลี่ยกำลังรับแรงอัดเท่ากับ 153.74 kN/cm2 และที่ 28 วัน ค่ากำลังอัดสูงสุดได้แก่การบ่มด้วยการบ่มด้วยน้ำพลังงานสนามแม่เหล็กซามาเรียม มีค่าเฉลี่ยกำลังรับแรงอัดเท่ากับ 245.41 kN/cm2 โดยกำลังอัดสูงสุดที่ 28 วันการบ่มด้วยน้ำพลังงานสนามแม่เหล็กซามาเรียมมีค่ามากกว่าตัวแปรควบคุม (การบ่มด้วยน้ำปกติ) คิดเป็น 20.71 เปอร์เซ็นต์
|