| บทคัดย่อ |
การวิจัยเรื่อง “การอ่านออกเขียนได้ทางการเงินของผู้สูงอายุกับแนวทางการกระจายรายได้” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการอ่านออกเขียนได้ทางการเงินของผู้สูงอายุและศึกษาระดับการกระจายรายได้ในเขตพื้นที่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์และ อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ สำหรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะทางการเงินและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการยกระดับฐานะ ทางเศรษฐกิจให้กับผู้สูงอายุ
วิธีดำเนินการวิจัย แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การวิจัยเชิงสำรวจ เพื่อศึกษาระดับคะแนนเฉลี่ยการอ่านออกเขียนได้ทางการเงิน และ การสังเคราะห์และประเมินผลการสำรวจ ได้แก่ การศึกษาทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจร่วมกับข้อมูลที่ส่วนราชการภาครัฐนำเสนอ โดยมีสมมติฐานในการวิจัยคือ ปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ของผู้ตอบแบบสอบถามมีผลทำให้ระดับคะแนนการอ่านออกเขียนได้ทางการเงินเฉลี่ยแตกต่างกัน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ดำเนินการวิจัย ได้แก่ ผู้สูงอายุในตำบลนางั่ว อำเภอเมือง ตำบลชนแดนและตำบลท่าข้าม อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 420 ตัวอย่าง ผลการวิจัย พบว่า ระดับคะแนนเฉลี่ยการอ่านออกเขียนได้ทางการเงินของกลุ่มตัวอย่าง เท่ากับ 11.34 คะแนน จากคะแนนเต็ม 21 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 54 ต่ำกว่าระดับคะแนนเฉลี่ยโดยเปรียบเทียบกับระดับคะแนนเฉลี่ย ของจังหวัด ระดับภาค และระดับประเทศ อ้างอิงจากรายงานผลการสำรวจทักษะทางการเงินของไทย ปี 2561 และจากการวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Linear Regression Analysis) พบว่าระดับการศึกษาและการมีเงินออม มีความสัมพันธ์กับระดับคะแนนเฉลี่ยการอ่านออกเขียนได้ทางการเงินของกลุ่มตัวอย่าง และการวิเคราะห์ ANOVA พบว่าสัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาค (GINI Coefficient) ที่แตกต่างกันในแต่ละตำบลไม่มีความสัมพันธ์กับระดับคะแนนเฉลี่ยการอ่านออกเขียนได้ทางการเงินของกลุ่มตัวอย่าง อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยได้เสนอแนะแนวทางในการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ทางการเงิน และการกระจายรายได้ให้กับผู้สูงอายุ ดังนี้ 1) ศึกษาวิจัยเจาะจงเฉพาะองค์ประกอบ เพื่อให้ได้ข้อมูลในเชิงลึก 2) รัฐควรจัดมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อปรับปรุงความรู้ทางการเงินเพื่อเพิ่มความตระหนักในการเตรียมการเกษียณอายุให้กับประชากร 3) ส่งเสริมกระบวนการพัฒนาทุนมนุษย์ในทุกด้าน เพื่อเตรียมการการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ 4) สร้างการตระหนักรู้ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัยและ 5) ส่งเสริมการมีงานทำของผู้สูงอายุ (60-69ปี) เพิ่มขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประเด็นการรองรับสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ
This research purposed to study the level of financial literacy of the elderly and the level of income distribution in the area. Muang Phetchabun District and Chon Daen District, Phetchabun Province for use as a guideline for developing financial skills and policy recommendations for improving the economic status of the elderly.
The research method was divided into 2 parts: survey research. To study the average score of financial literacy and analysis and evaluate survey results, including theoretical studies and related research. Analysis of survey data in conjunction with information by the government sector sources the hypothesis in this research is the respondents' fundamentals resulted in different average financial literacy scores.
The samples used to conduct this research was 420 elderly people in Na Ngua Sub-district, Muang District, Chon Daen District, and Tha Kham Sub-district, Chon Daen District, Phetchabun Province. Result is 11.34 Point of 21 (54%) lower than the average score compared with the provincial, regional and national average scores. Based on the financial literacy survey of Thailand 2018 by Bank of Thailand and Result from the Multiple Linear Regression Analysis, it was found that education level and savings It was correlated with the average financial literacy score of the samples. And ANOVA analysis found that the GINI coefficient was different for each district. There was no correlation with the average financial literacy score. However, the researcher has suggested some ways to develop financial literacy and distribution of income to the elderly are as follows: 1) Research specific elements. 2) The government should take a policy to improve financial literacy in order to increase awareness of retirement preparation for the everyone. 3) Promoting human capital development at all stages of life to prepare for the aging society. 4) To raise awareness in preparing for the aging society and 5) encourage the employment of the elderly (60-69 years) to increase, with related the national strategy (2018-2037) on supporting the aging society with quality.
|
|---|
| คำสำคัญ |
ผู้สูงอายุ,การอ่านออกเขียนได้ทางการเงิน,การกระจายรายได้,Elderly,Financial literacy,Income distribution
|
|---|
