2563

โครงการวิจัยเดี่ยว

วิจัยสถาบัน

แนวทางความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการ สังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์

Career advancement guidelines for university employees in the field of operations Phetchabun Rajabhat University

1. นายยอดชาย สายทอง (หัวหน้าโครงการ)

สำนักงานอธิการบดี

การวิจัย เรื่อง แนวทางความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการ สังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์จุดประสงค์
 
เพื่อศึกษาความคิดเห็นของพนักงานมหาวิทยาลัย สายปฏิบัติการ ที่มีต่อระดับความสำคัญและระดับการส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพ
 
เพื่อศึกษาระดับในการส่งเสริมและสนับสนุนความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัย สายปฏิบัติการ และระดับความสำเร็จ/บรรลุผลในการส่งเสริมและสนับสนุนความก้าวหน้าในสายอาชีพ
 
วิธีการดำเนินการวิจัยนี้แบ่งออกเป็น 3 ตอน ประกอบด้วย 1) ข้อมูลทั่วไป ประกอบด้วย เพศ อายุ วุฒิการศึกษา ประเภทผู้รับบริการ 2) ระดับความสำคัญและระดับการส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัย สายปฏิบัติการ สังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ระดับ คือ
 
5 หมายถึง มีระดับความสำคัญและระดับการส่งเสริมความก้าวหน้า ในสายอาชีพอยู่ในระดับมากที่สุด
4 หมายถึง มีระดับความสำคัญและระดับการส่งเสริมความก้าวหน้า ในสายอาชีพอยู่ในระดับมาก
3 หมายถึง มีระดับความสำคัญและระดับการส่งเสริมความก้าวหน้า ในสายอาชีพอยู่ในระดับปานกลาง
2 หมายถึง มีระดับความสำคัญและระดับการส่งเสริมความก้าวหน้า ในสายอาชีพอยู่ในระดับน้อย
1 หมายถึง มีระดับความสำคัญและระดับการส่งเสริมความก้าวหน้า ในสายอาชีพอยู่ในระดับน้อยที่สุด
โดยภาพรวมทั้งหมด 3) ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม การวิจัยเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
 
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ประเมินความพึงพอใจประกอบด้วย พนักงานมหาวิทยาลัยพนักงานสายปฏิบัติการ สังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยวิธีการเชิงสถิติบรรยาย ได้แก่ ค่าความถี่และร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
 
สรุปผลการวิจัย
ผลการวิจัย เรื่อง แนวทางความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการ สังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ จากการวิเคราะห์ผลระดับความสำคัญและระดับการส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัย สายปฏิบัติการ อยู่ในระดับมากทุกข้อ สามารถแบ่งเป็นด้านต่าง ๆ ดังนี้
 
1. ระดับความสำคัญและระดับการส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัย สายปฏิบัติการ พบว่า ระดับความสำคัญและระดับการส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพโดยรวมอยู่ในระดับมากทุกข้อ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.11 สามารถเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยหกลำดับแรกได้ดังนี้ มีค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับค่าครองชีพในปัจจุบัน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.32 ผู้บังคับบัญชามีการแจ้งถึงให้ทราบความก้าวหน้า มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.32 กำหนดสัดส่วนของภาระงานที่เหมาะสม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.01 ความมั่นคงในอาชีพการงาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.01 ส่งเสริมให้จัดทำแผนพัฒนาตนเอง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.01 และส่งเสริมให้พนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการได้ศึกษาในระดับที่สูงขึ้น มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.01
 
2. ระดับการปฏิบัติและระดับความสำเร็จหรือ บรรลุผลการส่งเสริมและสนับสนุนความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัย สายปฏิบัติการ พบว่า โดยรวม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.03 สามารถเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยสามลำดับแรกได้ ดังนี้ การจัดทำเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.08 รองลงมาคือ การประเมินความสามารถของพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการรายบุคคล มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.04 การจัดทำแผนทดแทนตำแหน่งว่าง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.03 และการจัดทำแผนฝึกอบรมและพัฒนาพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการรายบุคคล มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.97 ตามลำดับ
 
อภิปรายผล
จากผลการวิจัย เรื่อง แนวทางความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการ สังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ดังนี้
 
1. ระดับความสำคัญและระดับการส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัย สายปฏิบัติการ อยู่ในระดับมากที่สุดในเรื่อง มีค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับค่าครองชีพในปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัย (ทวีศักดิ์สูทกวาทิน, 2548) ดนัย เทียนพุฒ (2540) ได้อธิบายสายทางก้าวหน้าในงานอาชีพ (Career Path) ว่าเป็นลำดับ ตำแหน่งภายในองค์การซึ่งบุคลากรสามารถใช้เป็นแนวทางในการวางแผนการเติบโตในอาชีพได้คือผัง แสดงสายทางก้าวหน้าในอาชีพ เป็นความพยายามขององค์การที่จะพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถของบุคลากร โดยอาศัยข้อกำหนด กฎเกณฑ์ของสายทางก้าวหน้าในอาชีพเพื่อส่งเสริม และพัฒนา สามารถสะท้อนให้เห็นพัฒนาการทางทักษะ ความสามารถประสบการณ์การทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่บันไดของสายอาชีพ ซึ่งเปรียบได้กับการเลื่อนตำแหน่งงาน เพราะฉะนั้นสายทาง ก้าวหน้าในงานอาชีพ จึงสามารถให้รางวัลตอบแทนที่สอดคล้องกับความสามารถ และความ รับผิดชอบที่เพิ่มสูงขึ้น และแนวทางในการสร้างความเจริญเติบโตในอาชีพคือสิ่งที่สามารถปฏิบัติได้ โดยการตรวจสอบเส้นทางก้าวหน้าสู่ตำแหน่งสูงสุดตามบุคลากรที่ประสบความสำเร็จ วิเคราะห์ จุดเริ่มต้นของเส้นทางอาชีพ และวิเคราะห์ความสำคัญของงานเพื่อจะได้นำไปกำหนดในแต่ละขั้นของ ตำแหน่ง แม้ว่าองค์การจะมีนโยบายส่งเสริมเส้นทางก้าวหน้าในอาชีพ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า บุคลากรทุกคนจะสามารถเติบโตก้าวหน้าไปตามผังแสดงลำดับตำแหน่งที่กำหนดไว้หากแต่ขึ้นอยู่กับ 6 ความพยายามและสมรรถนะของแต่ละบุคคลรวมทั้งสภาพทั่วไปและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเลื่อน ตำแหน่งของแต่ละองค์การ
 
2. ระดับการปฏิบัติและระดับความสำเร็จหรือ บรรลุผลการส่งเสริมและสนับสนุนความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัย สายปฏิบัติการ อยู่ในระดับมากที่สุดในเรื่อง การจัดทำเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ดวงกมล ภาคเสมา (2545) ศึกษาการวางแผนสายอาชีพเพื่อพัฒนาบุคลากร : กรณีศึกษา พนักงานฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิครินทร์ผลการศึกษาพบว่าแนวคิดในการวางแผนจัดทำสาย อาชีพของโรงพยาบาล คือ การวางแผนจัดทำสายอาชีพอย่างต่อเนื่องและมีกระบวนการในการดำเนินงานที่ชัดเจน เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาอาชีพและพัฒนาบุคลากรในองค์กร ส่วนกระบวนการ วางแผนจัดทำสายอาชีพของโรงพยาบาลยังไม่ได้มีการดำเนินงานอย่างเป็นระบบมาก่อนแต่มีการ จัดทำในแต่ละส่วนของขั้นตอนบ้างแล้ว จากงานวิจัยที่ผู้วิจัยได้ศึกษาดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้นพบว่าการ วางแผนความก้าวหน้าในสายงานของบุคลากรนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะการจัดทำเส้นทาง ความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) ของพนักงานแสดงถึงการเติบโตในสายอาชีพของพนักงาน เมื่อเข้ามาปฏิบัติงานในองค์กร มีส่วนช่วยในการสร้างขวัญ กำลังใจ และรักษาคนเก่งคนดีไว้ใน องค์การ รวมทั้งเป็นการปูทางสู่การสร้างพนักงานที่มีคุณค่าให้แก่องค์กรในระยะยาว โดยการจัดทำ เส้นทางก้าวหน้าในสายอาชีพนี้เป็นเครื่องมือช่วยในการกำหนดความก้าวหน้าในการงาน ทำให้ พนักงานทำงานอย่างมีเป้าหมาย และกำหนดหนทางไปสู่ความสำเร็จของเป้าหมาย (สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน, ม.ป.ป) ซึ่งเส้นทางสายอาชีพที่ชัดเจนจะทำให้บุคลากรเกิด แรงจูงใจในการทำงาน เพราะบุคลากรจะรู้ถึงแนวทางความก้าวหน้าของตนเองในองค์กรได้สิ่งเหล่านี้ จะช่วยสร้างขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร และทำให้บุคลากรขยันและตั้งใจ ปฏิบัติงานมากขึ้น เพื่อให้ตนเองสามารถเจริญก้าวหน้าตามตาแหน่งงาน/สายงานได้อย่างเหมาะสม
 
ข้อเสนอแนะ
1. การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาแนวทางความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานมหาวิทยาลัยสายปฏิบัติการ สังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ในภาพรวมเท่านั้น ดังนั้นจึงควรมีงานวิจัยที่ถามรายละเอียดอย่างลึกซึ้งในแต่ละด้าน เพื่อได้ข้อมูลบ่งชี้ถึงปัญหาอย่างชัดเจน เพื่อใช้ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงประเด็นมากยิ่งขึ้น
 
2. ควรศึกษาในประเด็นเดียวกันนี้แต่ควรศึกษาในเชิงคุณภาพร่วมด้วยจะท าให้ได้ข้อมูลที่ ลุ่มลึกขึ้นเป็นประโยชน์มากขึ้น

แนวทางความก้าวหน้า,สายอาชีพ,พนักงานมหาวิทยาลัย,สายปฏิบัติการ,มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์

ดาวน์โหลด เปิด : 107 ครั้ง

ดาวน์โหลด เปิด : 101 ครั้ง:

176 ครั้ง