| บทคัดย่อ |
การศึกษาการฟื้นฟูการผลิตข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวของชาวนาในตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์สู่เกษตรอัจฉริยะต้นแบบมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นในการผลิตข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวในตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ด้วยการสัมภาษณ์ และศึกษาการฟื้นฟูการผลิตข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวคุณภาพโดยใช้รูปแบบ Smart Farmer ในตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ด้วยการการคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการเพาะปลูกข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวและพัฒนาศักยภาพชาวนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี ด้านการบริหาร และจัดการด้านการผลิตข้าวเหนียวดำพันธุ์ข้าวลืมผัว จากผลการทดลองพบว่า เกษตรกรมีประสบการณ์เกี่ยวกับการปลูกข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว อยู่ระหว่าง 0-10 ปี มีพื้นที่ที่ใช้ปลูกข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว อยู่ระหว่าง 1-5 ไร่ ต้นทุนต่อไร่ในการปลูกข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว อยู่ระหว่าง 1,900-4,000 บาทต่อไร่ มีรายได้ต่อไร่ในการปลูกข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว อยู่ระหว่าง 4,000-10,000 บาทต่อไร่ สำหรับการผลิตข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว พบว่า การเตรียมดินสำหรับการปลูกข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว เกษตรกรใช้วิธีการไถตากดินร่วมกับการใช้สารป้องกันกำจัดวัชพืชการเตรียมเมล็ดพันธุ์และแหล่งที่มาของเมล็ดพันธุ์ เกษตรกรใช้เมล็ดพันธุ์จากกรมการข้าว และเก็บเมล็ดพันธุ์เองโดยเข้ารับการฝึกอบรมการเก็บเมล็ดพันธุ์จากศูนย์วิจัยข้าวจังหวัดพิษณุโลก วิธีการปลูกข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว เกษตรกรใช้วิธีการหยอดเมล็ด และการหว่านเมล็ดการให้น้ำ ใช้น้ำฝนการใส่ปุ๋ยเคมี จำนวน 3 ครั้ง การป้องกันกำจัดโรค แมลงศัตรูพืช และวัชพืช ใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัด ลักษณะการจำหน่ายผลผลิต มี 2 ประเภท ได้แก่ ข้าวกล้องและข้าวเปลือก สำหรับสถานที่จำหน่ายและวิธีการขนส่ง โดยพ่อค้าคนกลาง ฝากร้านค้า OTOP และจำหน่ายเอง line ส่ง Kerry SCG ซึ่งคุณภาพของข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวมีการคัดเกรดและสิ่งเจือปน ข้าวกล้องคัดเมล็ดปน และข้าวเปลือกไม่คัดเมล็ดการกำหนดราคาขายผลผลิต โดยพ่อค้าคนกลาง กำหนดโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกำหนดเองสำหรับราคาและวิธีการจ่ายเงิน ข้าวกล้อง ราคา 80-120 บาทต่อกิโลกรัม และข้าวเปลือก ราคา 30-40 บาทต่อกิโลกรัมสภาพปัญหาเกี่ยวกับการผลิตและการตลาดข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวของเกษตรกร ได้แก่ ผลผลิตน้อย อ่อนแอต่อโรค และความต้องการของตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการผลิตและการตลาดข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวของเกษตรกร คือ พันธ์ต้านทานต่อโรค ปรับปรุงคุณภาพดิน การส่งเสริมการผลิตข้าวคุณภาพปลอดสารเคมี/ข้าวอินทรีย์ พัฒนาบรรจุภัณฑ์ และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ตามลำดับ
การฟื้นฟูการผลิตข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวคุณภาพมีศักยภาพสูงของชาวนาผู้ปลูกข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวในตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ มีการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตลดการใช้ปัจจัยการผลิตต่างๆด้วยกระบวนการลดการใช้สารเคมี คำนึงถึงผลกระทบต่อทรัพยากรการเกษตรหรือนิเวศการเกษตรสำหรับรูปแบบ Smart Farmer ในตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์งานวิจัยนี้สามารถสร้างเกษตรกรให้เป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องที่ทำการเกษตรผู้ปลูกข้าวเหนียวดำลืมผัวเป็นอย่างดี มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ตระหนักถึงคุณภาพสินค้าและความปลอดภัยของผู้บริโภค มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีความภูมิใจในความเป็นชาวนาผู้ปลูกข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวที่สามารถพึ่งพาตนเองได้
สำหรับการศึกษาอิทธิพลผลของปุ๋ยต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว เพื่อให้เกษตรกรได้เรียนรู้รูปแบบการปลูกข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวโดยอาศัยภูมิปัญญาท้องถิ่นร่วมกับรูปแบบการทำการเกษตรแบบลดการใช้สารเคมี พบว่า ภายหลังจากการศึกษาสมบัติของดินและคุณภาพข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์พบว่า การวิเคราะห์คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของดินหลังการทดลอง พบว่า ปริมาณโปแตสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ในทุกการทดลองมีค่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) เฉลี่ยอยู่ในช่วง 76.33-1,762.67 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งสภาพดินหลังการทดลองมีค่าpH อินทรีย์วัตถุ (เปอร์เซ็นต์) ปริมาณไนโตรเจนทั้งหมด (เปอร์เซ็นต์) ปริมาณฟอสโฟรัสที่เป็นประโยชน์ (มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) และปริมาณโซเดียมที่แลกเปลี่ยนได้ (มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) มีค่าไม่แตกต่างกันทางสถิติในทุกการทดลอง (p>0.05) เฉลี่ยอยู่ในช่วง 5.47-5.96 1.33-1.49 เปอร์เซ็นต์ 0.09 เปอร์เซ็นต์ 20.00-40.00 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และ 48.67-52.00 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ
สำหรับการเจริญเติบโตของข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวภายหลังจากการศึกษาอิทธิพลผลของปุ๋ยต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวทดลองปลูก แปลงเกษตรกรตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ระยะเวลา 90 วัน หลังงอก พบว่า ความยาวลำต้น และความยาวแผ่นใบของข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัวมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) เมื่อเทียบกับชุดควบคุม
ในขณะที่จำนวนต้นต่อกอ ความกว้างแผ่นใบน้ำหนักแห้งรากต่อกอ ความยาวรากจำนวนรวงความยาวรวง จำนวนเมล็ดต่อรวง น้ำหนัก 100 เมล็ด เปอร์เซ็นต์เมล็ดดีและเปอร์เซ็นต์เมล็ดรีบไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p>0.05)
The restoration of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice) Production of Farmer at Nong Mae Na, Khao Kho District, Phetchabun Province to Smart Farmer Model was studied.The objectives of this research were to study the local knowledge in the production of glutinous rice, Lim Phuua species, in Nong Mae Na Subdistrict, Khao Kho District, Phetchabun Province by interview and to study on the rehabilitation of the production of quality Khao LeumPua (Purple Sticky Rice)by using Smart Farmer model in Nong Mae Na Subdistrict, Khao Kho District, Phetchabun Province by selecting the area to operate the Khao LeumPua (Purple Sticky Rice) and develop the potential of farmers and transfer technology administrative and management production of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice).The experimental results were found that the farmers have experience in the production of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice) between the years 0 to 10. There was an area used to grow of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice) between 1-5 rai. The incomes per rai in the production of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice) are between 4,000-10,000 baht per rai. Farmers used soil plowing methods together with herbicides. Seed preparation and seed source Farmers used seeds from the Department of Rice and seed collection by owning the seed collection training from Phitsanulok Rice Research Center. Khao LeumPua (Purple Sticky Rice) was used sowing methods and sowing, irrigating, using rainwater, applying chemical fertilizer 3 times, prevention and eradication of diseases, pests and weeds. There were 2 types of product distribution, namely brown rice and paddy. For sales locations and means of transportation. The middlemen leave the OTOP stores and sell by themselves. Line send Kerry SCG, which the quality of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice)has been grading and impurity. Brown rice mixed with seeds and paddy, not selected seeds Setting the sales price of the product by middlemen determined by the community enterprise group and custom for the price and method of paying brown rice, the price is 80-120 baht per kilogram and paddy rice prices 30-40 baht per kilogram. Problems in the production and marketing of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice)of farmers, were such as low productivity, susceptible to disease and the needs of specific markets. As for the suggestions regarding the production and marketing ofKhao LeumPua (Purple Sticky Rice) of the farmer was the disease resistant species. Soil quality improvement Promotion of organic rice production / organic rice Packaging development and product processing respectively. The restoration of the production of the of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice)with high potential has the potential of the farmers who grow the of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice)in Nong Mae Na Subdistrict, Khao Kho District, Phetchabun Province. There was growth and productivity, reducing the use of various inputs. with the process of reducing the use of chemicals consider the impact on agricultural resources or agricultural ecology for the Smart Farmer model in Nong Mae Na Subdistrict, Khao Kho District, Phetchabun Province. This research can create a farmer who was knowledgeable about farming, black glutinous rice farmer who of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice) with information to make a decision aware of product quality and consumer safety responsible for the environment as well as being proud of being a farmer who grows of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice) that can be self-reliant For studying the influence of fertilizer effects on growth and development of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice) in order to enable farmers to learn about the ways of cultivating of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice) by using local wisdom in combination with the agricultural model to reduce the use of chemicals. From Nong Mae Na Subdistrict, Khao Kho District, Phetchabun Province, it was found that the analysis of physical and chemical properties of the soil after the experiment showed that the amount of potassium that could be exchanged in every experiment was significantly different (p <0.05). Average in the range 76.33-1,762.67 milligrams per kilogram. Which the soil condition after the experiment had the pH of organic matter, Percentage of total nitrogen content, Percentage of useful phosphorus content (Milligrams per kilogram), and exchangeable sodium content (Mg / kg) were not statistically different in all experiments (p> 0.05). The average range of 5.47-5.96 1.33-1.49 percent 0.09 percent 20.00-40.00 milligrams per kilogram and 48.67-52.00 milligrams per kilogram, respectively. For the growth of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice)after the study of the influence of fertilizer on the growth and yield of the sticky rice cultivar, forget the experiment. Farmers field in Nong Mae Na Subdistrict, Khao Kho District, Phetchabun Province at 90 days after germination showed that the trunk length and leaf length of the of Khao LeumPua (Purple Sticky Rice) was statistically significant (p <0.05) when compared with the control unit. While, the number of trees per clump Leaf width dry weight, root per clump, root length, number of grains, length of grains, number of seeds per gram, weight 100 seeds, percent seeds good and percent seeds in a hurry no significant difference (p> 0.05).
|
|---|
