| บทคัดย่อ |
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2.) เพื่อสร้างรูปแบบการเรียนรู้ที่บูรณาการศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาความสามารถในการสอนคิดวิเคราะห์ 3.) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ที่บูรณาการศาสตร์พระราชาพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้ที่บูรณาการศาสตร์พระราชาเพื่อในการคิดวิเคราะห์
การดำเนินการวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยและพัฒนา (Research and Development ) มีขั้นตอนการดำเนินงาน 4 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาสภาพการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6โดยการสนทนากลุ่ม ครูและนักเรียน จำนวน 20 คน ขั้นตอนที่ 2 เพื่อสร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่านประเมินความเหมาะสมและสอดคล้องของรูปแบบ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ กลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 จำนวน 30 คน ขั้นตอนที่ 4 การประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาครูที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ขั้นตอนที่ 1 ได้แก่ แบบบันทึกสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการสรุป ขั้นตอนที่ 2 แบบประเมินความเหมาะสมและสอดคล้อง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ( x̄ ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ตอนที่ 3 แบบประเมินความสามารถในการคิดวิเคราะห์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ( x̄ ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และหาค่าสถิติทดสอบที ขั้นตอนที่ 4 แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย
( x̄ ) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการวิจัยพบว่า
สรุปผลการวิจัย
จากการวิจัยเรื่องการการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ที่บูรณาการศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
1. การศึกษาสภาพการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ พบว่า การจัดการเรียนการสอนศาสตร์พระราชา มีความสำคัญมาก ซึ่งสถานศึกษาต้องให้ความสำคัญและจัดการเรียนการสอนอย่างจริงจัง สภาพการจัดการเรียนการสอน มีการดำเนินการหลายรูปแบบ ได้แก่ การพัฒนาโรงเรียนต้นแบบ การพัฒนาครู การจัดทำหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม กิจกรรมพัฒนานักเรียน และมีการสอดแทรกในการจัดการเรียนรู้ มีแผนการจัดการเรียนรู้แต่ไม่ครบทุกชั้นเรียน และสาระการเรียนรู้ แนวทางการดำเนินการได้แก่ การสร้างความตระหนัก การสร้างความรู้ด้วยตนเอง การปฏิบัติ และสร้างสรรค์ชิ้นงาน การพัฒนาการคิดและการแก้ปัญหา และการสะท้อนผลการเรียนรู้ การบูรณาการศาสตร์พระราชากับกิจกรรม ส่วนการประเมินผลมีการประเมินผลในภาพรวมยังไม่มีการวัดและประเมินผลด้านการคิดวิเคราะห์ที่ชัดเจน
2. ผลการสร้างและตรวจสอบคุณภาพของสร้างรูปแบบการเรียนรู้ที่บูรณาการศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาความสามารถในการสอนคิดวิเคราะห์ สำหรับสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 องค์ประกอบของรูปแบบ 5 องค์ประกอบได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3)สาระการเรียนรู้ 4) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน( APPEAR STEP)มี ขั้นตอนย่อย ได้แก่ ขั้นตระหนักในความสำคัญ(Awareness) ขั้นนำเสนอบทเรียน ( Lesson Presentation )ขั้นฝึกปฏิบัติ/สร้างสรรค์ชิ้นงาน ( Practice and Create work)ขั้นประเมินผล( Evaluation) ขั้นคิดวิเคราะห์และนำไปใช้( Analysis thinking and Application) สะท้อนผลการเรียนรู้และรายงานผล( Reflective and Report )และการวัดและประเมินผล*และตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบ โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน พบว่ามีความเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ภาพรวมระดับมาก ( x̄ = 4.38, S.D=. 0.59 ) และมีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.80-1.00
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบใช้รูปแบบการเรียนรู้ที่บูรณาการศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ หลังการใช้รูปแบบ สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อรูปแบบการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนรู้ที่บูรณาการศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ในภาพรวมมีความพึงพอใจในระดับมาก( x̄ = 4.05, S.D =. 0.71) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีความพึงพอใจในด้านปัจจัยนำเข้ามากที่สุด รองลงมา คือด้านกระบวนการ
The aims of the present study were: 1) to examine The King’s philosophy integrated learning development towards analytical thinking for grade 6 students in a primary school; 2) to develop a systematic pattern of The King’s philosophy integrated learning development towards analytical thinking; 3) to assess the effect of implementing The King’s philosophy integrated learning development towards analytical thinking, and 4) to evaluate the satisfaction of implementing The King’s philosophy integrated learning development towards analytical thinking.
Following research and development paradigm, the study was divided into 4 stages: Stage 1 studying basic information on The King’s philosophy integrated learning development towards analytical thinking for grade 6 students through a focus group discussion taken part by 20 participants of both teachers and students; Stage 2 developing and having The King’s philosophy integrated learning evaluated by 5 qualified examiners for its suitability and consistency. Stage 3 implementing The King’s philosophy integrated learning in a grade 6 class enrolled by 30 students who were selected using purposive sampling method; and Stage 4 evaluating the student's satisfaction towards The King’s philosophy integrated learning. The research instruments used for data collection in the 4 stages of this study were as the followings. In Stage 1, focus group discussion was used. In Stage 2, a form of suitability and consistency level represented by mean ( x̄ ), standard deviation (S.D.), and Index of Consistency (IOC) was employed for data analysis. In Stage 3, a test on analytical thinking level represented by mean ( x̄ ), standard deviation (S.D.), and t-test was administered. In Stage 4, a questionnaire on student's satisfactory level towards The King’s philosophy integrated learning represented by mean ( x̄ ) and standard deviation (S.D.) was given.
The findings of the present study can be summarized as follows.
1) The King’s philosophy integrated learning played a vastly essential role towards the development of analytical thinking and it should be prioritized and implemented by schools. The King’s philosophy integrated learning could be carried out in many ways including developments of prototypical schools, teachers, and extracurricular subjects, student enhancement activities. Although The King’s philosophy was an integral part of learning, it did not cover all learning levels and disciplinary. The procedures included awareness raising, autonomous learning, practicing, reflecting, and running The King’s philosophy integrated activities. However, the evaluation and assessment scheme towards analytical thinking as a whole remained unclear and arbitrary.
2) The development of The King’s philosophy integrated learning towards analytical thinking for grade 6 students consisted of 5 components: 1) rationale; 2) objectives; 3) content; and 4) 6-step instructional model or APPEAR STEP which was divided into: 4.1) Awareness; 4.2) Lesson Presentation; 4.3) Practice and Create Work; 4.4) Evaluation; 4.5) Analysis Thinking and Application; and 4.6) Reflective and Report. The suitability and consistency level of The King’s philosophy integrated learning evaluated by 5 qualified examiners was high, ( x̄ = 4.38, S.D=.0.59 ) and (0.80-1.00), respectively.
3) The implement of The King’s philosophy integrated learning improved analytical thinking in grade 6 students as indicated by statistically significant difference between pre- and post-test score on analytical thinking level (p <.05).
4) Grade 6 students reported high satisfactory level on The King’s philosophy integrated learning towards analytical thinking ( x̄ = 4.05, S.D=.0.71). The most satisfactory part was input and procedure, respectively.
|
|---|
| คำสำคัญ |
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้,ศาสตร์พระราชา,การคิดวิเคราะห์,instructional development,The King’s philosophy,analytical thinking
|
|---|
