| บทคัดย่อ |
งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสถาปัตยกรรมกับความเป็นการเมืองด้วยวิธีวิทยาแบบสัญญวิทยา วัตถุประสงค์ของการวิจัย คือเพื่อศึกษามายาคติของพระตำหนักเขาค้อ และ เพื่อเปิดเผยความเป็นการเมืองของพระตำหนักเขาค้อ โดยเชื่อว่าการสร้างสรรค์งานสถาปัตยกรรมโดยมากไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อสนองตอบตัวมันเอง แต่เกิดขึ้นเพื่อรับใช้ความต้องการหรืออุดมการณ์บางอย่าง โดยปฏิบัติการผ่านผู้ออกแบบในฐานะตัวกลางที่ไม่ได้หลุดลอยจากกรอบความคิดทางสังคมใด ๆ ดังนั้นการเกิดขึ้นของงานสถาปัตยกรรมจึงตั้งอยู่บนมิติทางสังคมและการเมือง ตามแต่เงื่อนไขบริบททางสังคม งานออกแบบจึงมีนัย “ความเป็นการเมือง” อยู่เสมอ ตัวบทของการวิจัย ได้แก่ พระตำหนักเขาค้อ เพื่อมองหาความหมายโดยตรงที่ปรากฏในสถาปัตยกรรมของพระตำหนักเขาค้อ และมีบริบทของการวิจัย ได้แก่ บริบททางการเมืองร่วมสมัยกับการสร้างพระตำหนักเขาค้อ ประวัติความเป็นมาของพระตำหนักเขาค้อ และภูมิรัฐศาสตร์ของพระตำหนักเขาค้อ สนามการวิจัยแบ่งเป็น 2 สนาม ได้แก่ สนามตัวบท ได้แก่ สถาปัตยกรรมของพระตำหนักเขาค้อที่ปรากฏในสื่อต่างๆ และสนามบริบท ได้แก่ เอกสารทางประวัติศาสตร์ รวมถึงข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมพื้นที่ภาคสนาม การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการเก็บรวมรวมข้อมูล 2 ขั้นตอน คือ การเก็บข้อมูลเอกสารปฐมภูมิและทุติยภูมิ และ การเก็บข้อมูลภาคสนามปฐมภูมิ
ผลการวิจัยพบว่าเหตุผลในการสร้างพระตำหนักฯ คือความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและเป็นอนุสรณ์สถานการต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสม์แห่งประเทศไทย เป็นขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในพื้นที่ และเป็นที่ทรงงาน และแปรพระราชฐานมาประทับแรม ในวโรกาสที่พระองค์ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จมาตรวจเยี่ยมโครงการตามพระราชดำริ ในพื้นที่เขาค้อ พระตำหนักเขาค้อมีความพิเศษเมื่อเทียบกับพระตำหนักอื่น ๆ ที่แสดงออกถึงพระจริยวัตรที่เรียบง่ายของพระองค์ท่าน ทั้งยังเป็นมายคติทางการเมืองในการประกาศชัยชนะของความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีเหนือพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย การที่พระตำหนักถูกสร้างบนยอดเขาที่สูงที่สุดของทิวเขาค้อแสดงให้เห็นถึงการที่พสกนิกรชาวเพชรบูรณ์ยกย่องสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้สูงส่งจนหาที่เปรียบมิได้
This qualitative research purposed to use Semiology to study the conceptual connection between architectures and politics (the political) – ‘the myth’ –, and to reveal ‘the political’ of Khao Kho Royal Palace. The semiological analysis concept based on the idea that an architectural creative concepts of architecture are not only constructed to fulfill itself, but also to serve some political needs. Creative are an agent and their architectural concepts cannot be free from any social and political dogmas. Hence, architectures are created by the ideas which are based on social and political contexts. To semiological analyzing the context, I needed to find the denotation in Khao Kho Royal Palace architecture (the text) that made me to continue to find the denotation in the comparative political contexts; history; and the geo-political ideas which occurred alongside with the construction/creation of Khao Kho Royal Palace. There were 2 fieldworks in this research. First, the textual fieldwork is the Khao Kho Royal Palace architecture in any medias. Second, the contextual fieldwork are documents and pictures taken from the text (Khao Kho Royal Palace architecture). There were 2 processes of data collection, the first one is the primary and secondary documents analyzing, and the second one is the secondary data collection in the fieldwork.
The result of the research found the reason (the denotations) in the construction of the palace was the grateful of the Phetchabun people in the King RAMA IX. The palace also the memorial of the subdue of The Communist Party of Thailand, the morale support to the people whom lived in the battlefield, the King’s work place and recreation. The uniqueness (the connotations) of the palace reveal some myths and its cultural backgrond; his majesty the king’s ordinary lifestyles; the subdue of The Communist Party of Thailand; and the extremely worship to the Monarchy of Phetchabun people.
|
|---|
| คำสำคัญ |
สัญวิทยา,ความเป็นการเมืองของสถาปัตยกรรม,พระตำหนักเขาค้อ,Semiology,The political of Architectre,Khao Kho Royal Palace
|
|---|
