| บทคัดย่อ |
การวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยมุ่งศึกษา “การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ทางสุขภาพของสมาชิกชมรมผู้สูงอายุตำบลบ้านโคก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์” เป็นการวิจัยแบบผสม (Mixed Research Method) โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยคือ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของสมาชิกชมรมผู้สูงอายุตำบลบ้านโคก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ และ 2) เพื่อศึกษาการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ทางสุขภาพของสมาชิกชมรมผู้สูงอายุตำบลบ้านโคก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
แหล่งข้อมูลการวิจัย ประกอบด้วย 1) บุคคล ได้แก่ สมาชิกชมรมผู้สูงอายุตำบลบ้านโคก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 173 คน และคณะกรรมการชมรมผู้สูงอายุตำบลบ้านโคก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 12 คน 2) เอกสาร ได้แก่ แนวคิด ทฤษฎี งานวิจัย และงานวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้สุขภาพของผู้สูงอายุ เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลมี 2 ลักษณะคือ 1) แบบสอบถาม (questionnaire) และ 2) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างเป็นเครื่องมือใน การวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1) ข้อมูลเชิงปริมาณ ใช้สถิติบรรยาย (Descriptive statistic) และสถิติเชิงอนุมาน 2) การวิเคราะห์ข้อมูลแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการศึกษาพบว่า สมาชิกชมรมผู้สูงอายุตำบลบ้านโคก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ มีพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพตนเอง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า มีพฤติกรรมอยู่ในระดับมาก จำนวน 3 ด้าน เรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านสุขภาพทางสังคม ด้านสุขภาพทางจิต และด้านสุขภาพทางปัญญา และมีพฤติกรรมอยู่ในระดับปานกลาง จำนวน 1 ด้าน คือ ด้านสุขภาพทางกาย ตามลำดับ
แนวทางการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ทางสุขภาพของสมาชิกชมรมผู้สูงอายุตำบลบ้านโคก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ทางสุขภาพของสมาชิกชมรมผู้สูงอายุเป็นกระบวนการพัฒนาที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ชมรมผู้สูงอายุ และตัวผู้สูงอายุเอง มีความจำเป็นต้องมีการจัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในการเตรียมความพร้อมให้กับผู้สูงอายุในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น ควรมีการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเกิดความรู้ความเข้าใจในการปรับตัวเข้าสู่วัยสูงอายุ เน้นการส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้สูงอายุเป็นสำคัญ เนื่องจากในช่วงวัยนี้ผู้สูงอายุจะมีอารมณ์ที่อ่อนไหวง่าย อีกทั้งต้องจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อดูพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องต้องชักจูง จูงใจผู้สูงอายุเห็นความสำคัญ ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุที่มาร่วมกิจกรรมกับชมรมผู้สูงอายุจะเป็นกลุ่มคนเดิม ๆ นอกจากนี้หน่วยงานทีเกี่ยวข้องควรเน้นการพัฒนาแบบบูรณาการและเป็นองค์รวม เน้นให้เกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืนต่อไป
คำสำคัญ : กระบวนการเรียนรู้, สุขภาพ, ผู้สูงอายุ
This Mixed Research entitled “developing health learning process of members on Elderly Club at Ban-Khok sub-district, Muang district, Phetchabun province” had following objectives: 1) to study health caring behavior of members on elderly club at Ban-Khok sub-district, Muang district, Phetchabun province, and 2) to study developing health learning process of members on Elderly Club at Ban-Khok sub-district, Muang district, Phetchabun province.
The sources of the information were as follows: 1) People; members of Elderly Club at Ban-Khok Sub-district, Muang district, Phetchabun province, altogether 173 persons and Elderly Club Committee, altogether 12 persons: 2) Document; concepts, theories, researches, and thesis on the health learning process of Elder people. The tools used in this research were 1) questionnaire and 2) Interview. The data analysis process was divided into 2 types; 1) Descriptive Statistic and Inferential Statistic, 2) Content Analysis.
The findings of this research were as follows: in overall, the level of self-health caring behavior of members of Elderly Club at Ban-Khok was in high level. While considering each aspect, 3 aspects namely aspect of social health, aspect of mental health, and intellectual health were in high level. However, aspect of physical health was in medium level.
Guidelines in developing health learning process of members on Elderly Club at Ban-Khok sub-district, Muang district, Phetchabun province:
The development of the health learning process of the elderly club members is a development process caused by the participation of many parties, whether it is a government agency, Elderly club, and elder people. There is a need to organize activities to provide knowledge and understanding in preparing the elderly for adapting to changes that are happening. Elder people should be encouraged to have knowledge and understanding in adapting to enter the elderly age focusing on promoting physical health and mental health of the elderly, because during this age, the elderly will have a sensitive mood. In addition, the activities should be organized continuously to observe the development and change of the elderly including those involved must influence and motivate the elderly to see the importance and participate in activities regularly; due to the fact that, the elderly group joining the club is the same old group. The related parties should focus on integrated development and sustainable learning.
Keywords: Learning process, Health, Elderly people
|
|---|
| คำสำคัญ |
กระบวนการเรียนรู้,สุขภาพ,ผู้สูงอายุ,Learning process,Health,Elderly people
|
|---|
