| บทคัดย่อ |
งานวิจัยเป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาการเมืองในการสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนตำบลศรีเทพ กับอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ และเพื่อทราบแนวทางบทบาทขององค์กรปกครองส่วนตำบลศรีเทพในการร่วมอนุรักษ์โบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนตำบลศรีเทพ จำนวน 1 คน ตัวแทนจากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จำนวน 1 คน และประชาชนในพื้นที่ที่ได้จากการอ้างอิงต่อเนื่องปากต่อปาก จำนวน 20 คนคน ระยะเวลาในการดำเนินการวิจัยคือ ภาคการศึกษาที่ 1 /2559 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสัมภายณ์ แบบมี โครงสร้าง ที่มีฐานจากมโนทัศน์รวบยอด ว่าด้วย "การแก้ไขความขัดแงเพื่อสร้างการอนุรักษ์โบราณสถานอย่างมีส่วนร่วม"
ผลการวิจัยคือ :
1. ความร่วมมือในการอนุรักษ์โบราณสถานในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพนั้นภาครัฐเข้ามาบริหารจัดการ โดยการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมืออย่างเคร่งครัด เพื่อให้คงไ ว้เป็นสมบัติของชาติ ในขณะที่ฝั่งประชาชนในพื้นที่มองว่าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพนั้นเป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นแหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นสาธารณะสมบัติของชุมชนที่ประชาชนสมควรเข้าไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ จึงเกิดการทับซ้อนกับพื้นที่ของเอกชน และขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ ซึ่งประชาชนในพื้นที่ก็ยอมรับว่าแม้จะรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็เข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ของทางอุทยานนั้นก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งในประเด็นการบังกับใช้กฎหมายเพื่อการอนุรักษ์นี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้ให้สัมภาษณ์ที่เป็นตัวแทนขององค์การบริหารส่วนตำบลศรีเทพ เหตุผลสำคัญคือความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเพื่อให้อุทยานประวัติศาสตร์สามาร ถพัฒนากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ดีกว่า
2. การเมืองเรื่องการอนุรักษ์โบราณสถานระหว่างอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพนั้นไม่ควรที่จะแก้ไขด้วยการบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียว เพราะจะยิ่งสร้างความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างภาครัฐกับประชาชน วิธีการที่ดีกว่าจึงควรเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดแต่ด้วยวิธีการที่ละมุนละม่อม พยายามสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ องค์การบริหารส่วนตำบลศรีเทพเลือกกลยุทธ์แบบประนีประนอม จนในที่สุดผลของการเลือกกลับนำไปสู่กลยุทธ์แบบสุขุมที่เป็นการผนวกเอาทั้งกลยุทธ์แบบถอนตัว สร้างความเป็นมิตร และประนีประนอมเข้าไว้ด้วยกัน
This qualitative research purposed to reconsider in the politics in cooperation between Sri Thep local administrative organization and Sri Thep historical site, and to the best strategical model of cooperation between Sri Thep local administrative organization and Sri Thep historical site in archaeological site conservation. There were 22 key informant representing an agents of a conflict schema; 1 from Sri Thep historical site, 1 from Sri Thep local administrative organization, and 20 from people in the area. Research period was the first semester of 2016 semester year. Research instrument was a structural interview constructed by a structural reading and a conceptualizing on ‘conflict resolution for cooperative conservation of historical site’.
Result of the research are as follow:
1. The cooperative conservation of historical site in Sri Thep historical site in the governmental perspective is the strictly law enforcing for the goal of national conservation while the people in the area perspective see the historical site as a sacred area and a community public area where everybody could make a use on their own interest. These is the main origin of a conflict of interest and a lack of cooperation on conservation. But not only the people in the area accept and understand the law enforcement, but the Sri Thep local administrative organization also in the reason that it is orderliness and easy to develop to a tourist attractions.
2. Politics of Sri Thep historical site should not only using a law enforcement in conservation because it made a poor relationship between the governmental part and the community part. The better strategical model of resolution sould not only enforce the law but also making a cooperation. Sri Thep local administrative organization chose a compromise strategy which brought out the result that, in the end, a deliberately strategy which appended a withdraw, a friendship, and a compromise strategy together.
|
|---|
| คำสำคัญ |
กลยุทธ์การอนุรักษ์,องค์การบริหารส่วนตำบล,ตัวแบบแก้ปัญหาความขัดแย้ง,Conservation Strategy,Local Administrative Organization,Conflict Resolution Model
|
|---|
