| บทคัดย่อ |
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ 2) เพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นบุคลากรทางการศึกษาในศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 48 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม และแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนาใช้วิเคราะห์ข้อมูลสถานภาพส่วนตัวของประชากรโดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย (Mean) ร้อยละ (Percentage) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าต่ำสุด และ ค่าสูงสุด ซึ่งกำหนดค่าความเชื่อมั่นในการทดสอบทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญเท่ากับ .05
ผลการวิจัย พบว่า ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษแบ่งออกเป็น 3 ด้านได้แก่ 1)ด้านผู้เรียนและการจัดการสิ่งแวดล้อมมีความคิดเห็นในการให้ความสำคัญรวมด้านนี้อยู่ในระดับสำคัญมาก ( =3.76, S.D.=0.48) 2) ด้านการจัดกิจกรรมและแผนพัฒนาการเรียนรู้ และด้านสื่อ อุปกรณ์ มีความสำคัญรวมด้านนี้อยู่ในระดับสำคัญมาก ( =3.85,S.D.=0.39) 3)ด้านการประชาสัมพันธ์มีความสำคัญรวมด้านนี้อยู่ในระดับสำคัญมาก ( =3.56,S.D.=0.37)กลุ่มประชากรให้ความสำคัญรวมทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับความสำคัญมาก เช่นกัน ( =3.73,S.D.=0.44) ผลการวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ที่มีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ประเมิน พบว่า เด็กที่มีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ประเมินมากที่สุด ได้แก่ เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพคิดเป็นร้อยละ 26.66
|