| บทคัดย่อ |
การวิจัยแบบมีส่วนร่วมเพื่อลดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชโดยใช้สารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาสารปราบวัชพืชที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม เพื่อทดแทนการใช้สารเคมีปราบวัชพืชที่มีขายในท้องตลาด และเพื่อส่งเสริมสนับสนุน ความรู้ ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่ปลอดภัย และลดการใช้สารเคมี วิธีดำเนินวิจัยโดยลงพื้นที่เก็บข้อมูลการเกษตร ทดลองผลิตสารปราบวัชพืชแล้วศึกษาทดลองการใช้สารปราบวัชพืช จัดประชุม อบรมเชิงปฏิบัติการผลิตสารปราบวัชพืชเผยแพร่การใช้ ผลการวิจัยพบว่าเกษตรกรนิยมใช้สารเคมีปราบวัชพืชชนิดไม่เลือกทำลาย ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้ทดลองหาสารปราบวัชพืชชนิดไม่เลือกทำลายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พบว่าน้ำหมักมะขาม น้ำส้มสายชู และน้ำมะนาวทำให้วัชพืชตายได้เกือบทุกชนิด จากนั้นได้เผยแพร่ความรู้โดยจัดประชุม อบรมเชิงปฏิบัติการผลิตและการใช้สารปราบวัชพืช ในวันที่ 23 มิถุนายน 2559 ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตข้าวปลอดสารชอนไพร มีผู้เข้าอบรม 50 คน ผู้เข้าอบรมมี ระดับความพึงพอใจด้านวิทยากรมาก ด้าน ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนี้ หลัง การอบรมมากที่สุด (4.64±0.61) ด้านการนำความรู้ไปใช้ มากที่สุด สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้มาก ข้อเสนอแนะ การอบรมแบบนี้ดีมาก อยากให้จัดอบรมบ่อยๆ มีความชัดเจน ได้ความรู้มาก อยากได้ความรู้สำหรับทำนาอย่างมีประสิทธิภาพ
The three objectives of this research were 1) identification of herbicides which safe to user, consumers and the environment 2) replacement the use of herbicides sold in the market, and 3) promotion of knowledge, secured agricultural inputs, and reduction the use of chemicals. The methods were collection of agricultural data, experiment to identify and use herbicides, and workshop conference for production, using, and knowledge distribution about succeeded herbicides. The results showed that farmers use herbicides that do not harm the environment, thus researchers experimented to test for herbicides that were environmentally friendly and the fermented juice of tamarind, vinegar and lemon juice were succeeded samples. Next, workshop conference was organized on 23rd June 2016 at Shawn Prie Organic Rice Supplier Community Enterprise. Fifty participants were very satisfied their lecturers and the ability to apply knowledge after the training operation. They were the most satisfied in the knowledge after the training (4.64 ± 0.61). And they suggested that workshop conference was good, clear, and got a lot of knowledge; therefore, workshop should be held frequently. In addition, farmers also want the training to do farm efficiently.
|
|---|
