| บทคัดย่อ |
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ 2) หาแนวทางการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ในพื้นที่วนอุทยานน้ำตกธารทิพย์ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ วิธีการดำเนินการวิจัย ใช้กระบวนการวิจัยแบบมีส่วนร่วม โดยแบ่งขั้นตอนการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย 1)การเก็บข้อมูล ได้แก่ การเก็บข้อมูลด้านเอกสารและการเก็บข้อมูลภาคสนาม 2)การจัดการประชุมกลุ่มย่อย (focus group) และนำข้อมูลที่ได้มาประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 400 คน และตัวแทนเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ วนอุทยานน้ำตกธารทิพย์ จำนวน 3 คน และ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 2คน และองค์การบริหารส่วนตำบลบุ่งน้ำเต้า และตัวแทนชุมชนในพื้นที่ตำบลบุ่งน้ำเต้า จำนวน 15 คน รวม 20 คน สรุปผลการศึกษาพบว่า ระดับศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และพื้นที่โดยรอบแหล่งท่องเที่ยว ประกอบด้วยศักยภาพ 7 ด้าน ได้แก่ ด้านจุดดึงดูดการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและด้านกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ( = 4.11) ด้านการสร้างจิตสำนึกและการให้ความรู้( = 4.04) ด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว( = 3.87) ด้านความสะดวกสบายในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว( = 3.78) ด้านการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น ( = 3.60) และด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ( = 3.48) โดยในภาพรวมมีศักยภาพอยู่ในระดับมาก ( = 3.87) โดยผู้วิจัยได้นำมาสรุปเป็นแนวทางการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ วนอุทยานน้ำตกธารทิพย์ ควรมีการจัดการด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว ด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน และด้านการส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศโดยอาศัยปัจจัยภายนอก เช่น การส่งเสริมการตลาด และการใช้สื่อประชาสัมพันธ์
This study aims to; 1) study the potential of Namtok Than Thip Forest Park to become an ecotourism attraction, and 2) find a guideline for ecotourism management of Namtok Than Thip Forest Park, Lomsak District, Phetchabun Province. This study applies participatory action research. The researcher collected data by 1) document analysis, 2) fieldwork study, 3) using a questionnaire, 4) applying focus group and finally, the overall data were analyzed and synthesized. They were 2 sample groups; 400 Thai tourists answering the questionnaire and 20 representatives who were 3 officers of Namtok Than Thip Forest Park, 2 officers of Phetchabun Provincial Office of Tourism and Sports and 15 officers of Bungnamtao Sub-district Administrative office and local people in district joining in the focus group. The results of the study revealed that Namtok Than Thip Forest Park had the potential to be ecotourism attraction bases on 7 key potential characteristics, which were; 1) natural tourism attractions( x = 4.11), 2) ecotourism activities( x = 4.11), 3) consciousness and knowledge ( x = 4.04), 4) tourist’s safety ( x = 3.87), 5) accessibility ( x = 3.78), 6) community participation ( x = 3.60) and 7) tourist facilities ( x = 3.48). The overall mean of 7 key potential characteristics to be an ecotourism attraction at a high level ( x = 3.87). The researcher has concluded the guideline an ecotourism attraction management should include; 1) tourist facilities, 2) accessibility, 3) community participation and 4) promoting and developing tourism attraction by external factors such as marketing promotions and public relations medias.
|
|---|
| คำสำคัญ |
ศักยภาพ,แนวทางการจัดการ,แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ,potential,ecotourism management
|
|---|
