| บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่น “HIRU” เพื่อพัฒนาสมรรถนะสำคัญด้านการสื่อสารภาษาไทย-ม้ง ของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง เปรียบเทียบสมรรถนะสำคัญสมรรถนะสำคัญด้านการสื่อสารภาษาไทย-ม้ง ของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ก่อนใช้และหลังใช้ด้วยแอพพลิเคชั่น “HIRU” ที่พัฒนาขึ้น รวมถึงประเมินความพึงพอใจของของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง หลังใช้ด้วยแอพพลิเคชั่น “HIRU” โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนบ้านเข็กน้อย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวนทั้งสิ้น 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญด้านการสื่อสารภาษาไทย-ม้ง และแบบประเมินความพึงพอใจของของนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง หลังใช้ด้วยแอพพลิเคชั่น “HIRU” ในงานวิจัยครั้งนี้ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลการวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ร่วมกับค่าสถิติอย่างง่าย พบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แอพพลิเคชั่น “HIRU” เพื่อพัฒนาสมรรถนะสำคัญด้านการสื่อสารระหว่างภาษาไทย - ม้ง หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ แอพพลิเคชั่น “HIRU” ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นมีความ แปลกใหม่ น่าสนใจ เนื้อหาไม่ง่ายหรือไม่ยากจนเกินไป รวมถึงการใช้งานไม่ว่าจะใน หรือนอกห้องเรียน ก็มีความสะดวก แต่ยังมีข้อจำกัดบางอย่าง ในการใช้งานแอพพลิเคชัน คือ เครือข่ายอิเตอร์เน็ต หรือสัญญาณโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในบริเวณที่ทำการใช้งาน อย่างไรก็ตาม แอพพลิเคชั่น “HIRU” ทำให้นักเรียนเกิดความสนุกสนานและเกิดการเรียนรู้ข้ามภาษาได้ดี
This research aims to develop the “HIRU” application to develop key competencies in Thai-Hmong language communication of Hmong ethnic students, compare key competencies in Thai-Hmong language communication of Hmong ethnic students before and after using the developed “HIRU” application, and assess the satisfaction of Hmong ethnic students after using the “HIRU” application. The target group is primary school students in grades 1-3 at Ban Khek Noi School, Phetchabun Primary Educational Service Area Office 2, academic year 2023, totaling 15 people. The research instruments are the Thai-Hmong language communication key competency assessment form and the Hmong ethnic student satisfaction assessment form after using the “HIRU” application. In this research, data analysis was conducted using content analysis along with simple statistics. It was found that students who received learning activities using the “HIRU” application to develop key competencies in Thai-Hmong language communication after organizing learning activities using it had a very high level of satisfaction. This may be because the “HIRU” application developed by the researcher is novel and interesting, the content is not too easy or too difficult, and its use, whether in or outside the classroom, is convenient. However, there are still some limitations. The application requires an internet network or a smartphone signal in the area where it is used. However, the “HIRU” application allows students to have fun and learn across languages well.
|
|---|
