| รหัสโครงการวิจัย |
PCRU_2562_AC007
|
| ปีงบประมาณ |
2562
|
| ประเภทโครงการ |
โครงการวิจัยเดี่ยว
|
| ประเภททุน |
สนับสนุนการขอผลงานทางวิชาการ
|
| ชื่อโครงการวิจัย |
การหาปัจจัยที่เหมาะสมในการต้านทานการสึกหรอ ของเหล็กกล้าไร้สนิม AISI 304 ในสภาวะกรดและอุณหภูมิสูงของอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยออกแบบการทดลองเชิงแฟกทอเรียล 23 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
|
| ชื่อโครงการวิจัย (EN) |
Determining the Optimal Factors on the Wear Resistance of AISI 304 Stainless Steel in Agricultural Food Processing at High Nature Acidic and High Temperature Using a 23 Factorial Design at 95% Confidence Level.
|
| นักวิจัย |
|
| คณะ/หน่วยงาน |
คณะเทคโนโลยีการเกษตรและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
|
| บทคัดย่อ |
วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้คือการศึกษาหาปัจจัยที่เหมาะสมในการต้านทานการสึกหรอของเหล็กกล้าไร้สนิม AISI 304 ในสภาวะกรดและอุณหภูมิสูงของอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร เพื่อเป็นการเพิ่มอายุการใช้งานและเพิ่มอัตราการผลิตให้สูงขึ้น ทำการศึกษาในกระบวนการบ่มเทียมและจุ่มชุบ ทำการออกแบบการทดลองเชิงแฟกทอเรียล 23 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% และวิเคราะห์ความแปรปรวนของการทดลอง เพื่อศึกษาอิทธิพลของตัวแปรที่ส่งผลต่อการต้านทานการสึกหรอ ปัจจัยที่ทำการศึกษาคือปัจจัยด้านการอบที่อุณหภูมิ 560 และ 650 องศาเซลเซียส ปัจจัยด้านเวลาในการจุ่มชุบที่ 20 และ 30 นาที และปัจจัยด้านชนิดของสารจุ่มชุบในการเย็นตัวได้แก่น้ำและน้ำมันพืช ปัจจัยควบคุม ได้แก่ อุณหภูมิในการทดลอง 70 – 80 องศาเซลเซียส ชิ้นงานถูกแช่อยู่ในน้ำขิงดองมีค่าความเป็นกรดที่ 3 – 3.5 pH ในการดำเนินการทดลองมีการสุ่มลำดับการทดลอง (Randomization) โดยแสดงหมายเลขสุ่มของชิ้นทดสอบจำนวน 32 ชิ้น จากนั้นทำการทดสอบการสึกหรอด้วยวิธี Pin on disc หาค่าน้ำหนักที่หายไปหลังผ่านการทดลอง พร้อมทั้งทำการวิเคราะห์รอยขีดข่วนลักษณะทางกายภาพด้วยกล้องกล้องจุลทรรศน์ จากผลการทดลองพบว่าในทุกปัจจัยมีผลต่อการต้านทานการสึกหรออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติและปัจจัยที่เหมาะสมชี้ให้เห็นว่าการอบที่อุณหภูมิ 650 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที และจุ่มชุบเย็นตัวในน้ำ จะสามารถให้การต้านทานสึกหรอของเหล็กกล้าไร้สนิม AISI 304 ได้ดีที่สุด และจากการวิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพรอยขีดข่วนด้วยกล้องกล้องจุลทรรศน์ก็มีผลการทดลองสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน จึงสามารถนำข้อมูลไปใช้งานในการต้านทานการสึกหรอและเพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องมือที่เป็นเหล็กกล้าไร้สนิม AISI 304 ได้
This research was aimed at to study of Identifying the optimal factors on the wear resistance of AISI 304 stainless steel in agricultural food processing industry at high nature acidic and high temperature using a 23 factorial design at 95% confidence level and analysis of variance of experiments. In order to increase the tool life and increase the production rate. The factors studied were temperature factors of 560 and 650 C° and the quenching time factor was 20 and 30 minutes and the type of quenching medium in cold water and vegetable oil. The control factor is the experimental temperature of 70 - 80 degrees Celsius. The specimens were immersed in the pickled ginger juice with an acidity of 3 - 3.5 pH. Randomization by showing the random number of 32 test pieces. Then test the wear on the Pin on disc method. Determine the weight lost after the experiment. Along with analyzing scratches, physical characteristics with optical microscope. The results indicated that in all factors, the wear resistance was statistically significant. Appropriate factors indicate that temperature at 650 degrees, quenching time for 30 minutes and quenching medium in the water. Will be able to provide the best wear resistance of stainless steel AISI 304 and the analysis of physical characteristics, scratches by optical microscope also have the same experimental results. Therefore able to use the data for wear resistance and increase the tool life of the stainless steel tool AISI 304.
|
| คำสำคัญ |
การต้านทานการสึกหรอ,เหล็กกล้าไร้สนิม AISI 304,การทดลองเชิงแฟกทอเรียล,Wear resistance,AISI 304 Stainless steel,Factorial design
|
| สถานะโครงการ |
ดำเนินการเสร็จสิ้น
|
| บทคัดย่อ |
|
| เล่มรายงาน |
|
| เปิดดู |
310 ครั้ง
|
| หมายเหตุ |
|
|---|